ผมร่วงเป็นหย่อมมีวิธีรักษาอย่างไร ปลูกผมช่วยได้จริงไหม?

anga-upload - ก.ค. 03, 2023

ผมร่วงเป็นหย่อม ปัญหากวนใจที่ผู้หญิงและผู้ชายมักจะพบเจอเมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 20-40 ปี ซึ่งโรคผมร่วงเป็นหย่อมมักจะเกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือน ทำให้กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้ไปเสียแล้ว แต่แน่นอนว่า หากรู้จักลักษณะอาการ และเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคผมร่วงเป็นหย่อม คุณก็จะสามารถหาแนวทางป้องกัน รวมถึงวิธีแก้ปัญหาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กลับมาได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย

ในบทความนี้คลินิกปลูกผม Grow & Glow จึงจะพาคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายที่กังวลเกี่ยวกับโรคผมร่วงเป็นหย่อมมาทำความรู้จักกับลักษณะอาการและสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ รวมถึงแนวทางการรักษาที่เห็นผล และช่วยสร้างความมั่นใจให้กลับมาได้

ทำความเข้าใจโรคผมร่วงเป็นหย่อม

โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) คือโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้การร่วงของผมมีลักษณะเป็นวงกลมตั้งแต่ 1-2 วงไปจนถึงหลายวงทั่วทั้งศีรษะ และจะไม่พบอาการผิดปกติใด ๆ ในบริเวณที่ผมร่วง ทำให้สังเกตอาการได้ยาก โดยมักจะพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชายที่อยู่ในช่วงวัย 20-40 ปี รวมถึงผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ด้วย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคผมร่วงเป็นหย่อมก็มาจากหลากหลายปัจจัยทั้งความเครียด พันธุกรรม การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ โรคภูมิแพ้ต่าง ๆ เป็นต้น โดยอาการผมร่วงเป็นหย่อมนี้จะสามารถหายได้เอง และผมบริเวณดังกล่าวจะงอกใหม่ในเวลาประมาณ 6-12 เดือน แต่ในบางรายก็อาจจะไม่สามารถงอกใหม่ได้เอง และลุกลามจากวงเล็กเป็นวงใหญ่ จนผมร่วงหมดศีรษะได้ นอกจากนี้ยังอาจมีผลต่อการร่วงของขนบริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น หนวด เครา ขนคิ้ว ขนตา เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม ก็ควรจะรีบพบแพทย์ตั้งแต่อาการยังไม่รุนแรงมาก เพื่อให้แพทย์ตรวจเช็กสาเหตุของการเกิดโรคให้แน่ชัด และแนะนำวิธีรักษาที่เหมาะสม

โรคผมร่วงเป็นหย่อมแบ่งออกเป็น 3 ชนิด

1. Alopecia areata (AA)

คือการมีผมร่วงเป็นหย่อม ๆ บริเวณศีรษะ ขนคิ้ว ขนตา หนวดเครา และขนบริเวณใบหน้าหรือลำตัว เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้รูขุมขนอ่อนแอ

2. Alopecia totalis (AT)

ผมบริเวณศีรษะร่วงเป็นหย่อมจำนวนมากจนร่วงหมดศีรษะ และอาจรวมถึงขนคิ้วและขนตาด้วย เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าไปทำลายเซลล์รากผม แต่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการใช้ยาทาร่วมกับยาฉีดเฉพาะที่ เพื่อลดการอักเสบของรูขุมขนและช่วยซ่อมเซลล์รากผมที่ฝ่อตัวได้

3. Alopecia universalis (AU)

เกิดจากการเป็นโรคผมร่วงหมดศีรษะ (Alopecia totalis – AT) และลุกลามจนเป็นโรคผมร่วงทั่วตัว

ผมร่วงเป็นหย่อม รักษาอย่างไรได้บ้าง?

วิธีรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงหรือชนิดของโรค นอกจากนี้ยังมีทั้งวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และวิธีที่ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้รักษาให้ ดังนี้

โดยการใช้ยากดภูมิแบบต่าง ๆ ทั้งแบบมีสเตียรอยด์ และไม่มีสเตียรอยด์ โดยมีให้เลือกทั้งแบบยาทาเฉพาะที่ ยากิน และยาฉีดเข้าผิวหนังบริเวณที่ผมร่วง เพื่อกดภูมิคุ้มกันให้ทำงานน้อยลง และกระตุ้นให้ผมงอกใหม่มากขึ้น แต่จะขึ้นประมาณ 90% ภายใน 4-6 สัปดาห์หลังการรักษา และคงอยู่ประมาณ 3 เดือน

การกระตุ้นรากผมในบริเวณที่ผมร่วงเป็นกระจุก จะช่วยให้รากผมกลับมางอกผมเส้นหนา และคุณภาพดีเหมือนเดิมได้ โดยมีให้เลือกหลากหลายวิธี เช่น การกระตุ้นด้วยเลเซอร์ LLLT, การฉีด PRP เป็นต้น

เช่น การทำ สุคนธบำบัด และการฝังเข็ม ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีงานวิจัยที่สามารถยืนยันว่าสามารถรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อมได้จริง แต่ก็มีผู้ที่รักษาแล้วเห็นผลอยู่

การปลูกผมถาวร เป็นวิธีรักษาที่ช่วยสร้างความมั่นใจกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ผู้ที่จะทำวิธีนี้ได้โรคผมร่วงเป็นหย่อมจะต้องสงบแล้วเท่านั้น โดยสามารถที่จะปลูกผมทดแทนได้ในกรณีที่ผมกลับขึ้นมาแต่ไม่ 100% ซึ่งในปัจจุบันก็มีวิธีปลูกผมให้เลือกหลากหลายเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคปลูกผม FUE ที่ใช้วิธีเจาะเซลล์รากผม เพื่อดึงเซลล์รากผมออกมาโดยตรง แล้วนำไปปลูกผมบริเวณที่ต้องการ และเทคนิคปลูกผม FUT ที่เป็นการผ่าตัดด้วยการกรีดหนังศีรษะตื้น ๆ เพื่อคัดแยกเซลล์รากผม แล้วนำไปปลูกผมบริเวณที่ต้องการ

แม้ว่าโรคผมร่วงเป็นหย่อม จะไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต และสามารถหายได้เอง แต่ก็เป็นโรคที่ส่งผลต่อจิตใจและการใช้ชีวิตของผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่พอสมควร นอกจากนี้หากไม่ได้รับการรักษาเพื่อหาวิธีให้ผมหยุดร่วงในระยะยาว ก็อาจจะเกิดโรคนี้ซ้ำได้อีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่เคยเป็นและผู้ที่เป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม ก็ควรจะดูแลตัวเองให้ดี และเข้าพบแพทย์ รวมถึงทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอาการผมร่วงให้หายไป

นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่เคยเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม แล้วเกิดปัญหาผมไม่งอกขึ้นใหม่ก็สามารถเข้ามาใช้บริการปลูกผมถาวรที่ คลินิกปลูกผม Grow & Glow พร้อมรับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย โดยแพทย์ของเราจบการศึกษาเฉพาะทางด้านการปลูกผมจากสถาบันชั้นนำระดับโลก และมีการวางแผนรวมถึงประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน


ปรึกษาฟรีกับคุณหมอ