ขั้นตอนการปลูกผม

เขียนโดย แพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ - ก.พ. 04, 2022

ขั้นตอนการปลูกผมด้วยเทคนิค FUT และ FUE

สำหรับใครที่อยากแก้ไขปัญหาร่วง ผมเถิก หรือศีรษะล้าน ด้วยวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจนและไวที่สุด คงต้องตัดสินใจเลือกวิธีการ “ปลูกผมถาวร” อย่างแน่นอน ทำให้ต้องมีการศึกษาขั้นตอนการปลูกผมด้วยเทคนิคต่าง ๆ กันไว้อยู่แล้ว เพื่อเป็นข้อมูลในการใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับคุณ

ความต่างของขั้นตอนการ FUT และ FUE

GROW & GLOW Clinic ขอมาอธิบาย “ขั้นตอนการปลูกผม” ของเทคนิคการปลูกผมสุดฮิตอย่าง FUT และ FUE เพื่อเป็นข้อมูลให้กับคนที่สนใจอยากปลูกผมกันแบบละเอียด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเส้นผมระดับโลก ซึ่งจะแตกต่างกันอย่างไรหรือมีขั้นตอนการปลูกผมแบบใดบ้าง สามารถดูได้ในบทความนี้

ขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUT

โดยขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUT นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนใหญ่ ๆ  ดังต่อไปนี้

1. ขั้นแรก ย้ายรากผม

ขั้นตอนแรกของการปลูกผมแบบ FUT คือการเข้ารับการปรึกษาและพูดคุยกับแพทย์เฉพาะผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม เพื่อทำการออกแบบและวาดแนวผมที่ต้องการปลูกใหม่ จากการวัดพื้นที่และคำนวณจำนวนกราฟที่ใช้ ซึ่งขั้นตอนการปลูกผมนี้จะเป็นการช่วยให้ผมที่ปลูกออกมาดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับรูปหน้าของแต่ละบุคคลมากที่สุด ก่อนเริ่มขั้นตอนการปลูกผมแพทย์จะทำการคัดเลือกเซลล์รากผมที่มีความแข็งแรงสูง เช่น บริเวณท้ายทอย หลังจากนั้นจะทำการโกนผมบริเวณนั้นออก และฉีดยาชาให้ทั่วบริเวณดังกล่าว เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเริ่มต้นผ่าหนังศีรษะเป็นแนวยาว โดยการใช้ Open Technique เพื่อให้ได้จำนวนกราฟผมตามที่คำนวณไว้โดยไม่เกิดความเสียหายต่อรากผมเลย

2. ขั้นที่สอง ย้ายรากผม

ขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUT ต่อมาหลังจากได้จำนวนกราฟเส้นผมที่ต้องการแล้ว แพทย์จะนำเอาเซลล์รากผมที่ได้มานั้นไปเก็บรักษาด้วยน้ำเลี้ยงเซลล์ ในระหว่างนั้นผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญสูงในการคัดแยกเซลล์รากผมที่แข็งแรงด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อรักษาคุณภาพเซลล์รากผมที่แข็งแรงที่สุดออกมาในแต่ละกอ

3. ขั้นที่สาม ลงมือปลูกผม

ขั้นตอนสุดท้ายของการปลูกผมแบบ FUT แพทย์จะทำการฉีดยาชาลงไปในบริเวณเฉพาะที่ตลอดแนวหนังศีรษะที่วาดไว้ และรอยาชาออกฤทธิ์ หลังจากนั้นทำการเริ่มผ่าตัดโดยการใช้เทคนิคแบบเปิด (Open Technique) ผ่านแว่นขยายกำลังสูงเพื่อให้เห็นแนวรากผมที่ชัดเจน อีกทั้งยังลดอาการสูญเสียและบาดเจ็บของรากผม พร้อมด้วยการปิดแผล ด้วยวิธี Trichophytic Closure ซึ่งเป็นวิธีการปิดแผลที่ทำให้เส้นผมงอกออกมาจากแผลได้

ข้อดีและข้อเสียของขั้นตอนการปลูกผม FUT

ข้อดีของขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUT จะมีทั้งหมด 3 อย่างด้วยกัน คือ เป็นการผ่าตัดเล็กทำให้มองไม่เห็นแผลผ่าตัด และผมด้านหลังยังดกดำเหมือนเดิมความหนาแน่นไม่ลดลง ทำให้สามารถปลูกผมเพิ่มเติมในอนาคตได้ ส่วนข้อเสียเมื่อตัดผมสั้นมาก ๆ จะเห็นแผลเป็นแนวยาวที่หลังศีรษะ ควรไว้ผมหลังศีรษะเพื่อปกปิดไว้อย่างน้อย 1.5 cm และสำหรับขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUT จะมีระยะพักฟื้นจากการผ่าตัดค่อนข้างนานกว่าแบบ FUE

ขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUE

โดยขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUE นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนใหญ่ ๆ  ดังต่อไปนี้

1. ขั้นแรก ย้ายรากผม

ขั้นตอนแรกของการปลูกผมแบบ FUE คือการเข้ารับการปรึกษาและพูดคุยกับแพทย์เฉพาะผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม เพื่อทำการออกแบบและวาดแนวผมที่ต้องการปลูกใหม่ จากการวัดพื้นที่และคำนวณจำนวนกราฟที่ใช้ ก่อนเริ่มขั้นตอนการปลูกผม โดยแพทย์จะทำการคัดเลือกเซลล์รากผมที่มีความแข็งแรงสูง เช่น บริเวณท้ายทอย หลังจากนั้นจะทำการโกนผมบริเวณนั้นออก และฉีดยาชาให้ทั่วบริเวณดังกล่าว

2. ขั้นที่สอง ย้ายรากผม

ขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUE จะทำหลังจากเมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเริ่มใช้เครื่องมือพิเศษ เพื่อเจาะนำเอาเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอย โดยการใช้ตัวเจาะพิเศษที่มีขนาดเล็ก 0.8 มม. เจาะผ่านผิวหนังตามแนวขนานกับรากผม เพื่อดึงเอาเซลล์รากผมออกมาเก็บรักษาด้วยน้ำเลี้ยงเซลล์ เพื่อรักษาคุณภาพเซลล์รากผมให้แข็งแรงที่สุด

3. ขั้นที่สาม ลงมือปลูกผม

ขั้นตอนสุดท้ายของการปลูกผมแบบ FUE แพทย์จะทำการฉีดยาชาพร้อมทั้งยาห้ามเลือดลงไปในบริเวณเฉพาะที่ตลอดแนวหนังศีรษะที่วาดไว้ และรอยาชาออกฤทธิ์ จากนั้นแพทย์จะทำการเจาะรู และนำเซลล์รากผมใส่ลงในรูที่เจาะเตรียมไว้จนครบบริเวณที่จะปลูก

ข้อดีและข้อเสียของขั้นตอนการปลูกผม FUE

ข้อดีของขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUE คือ แผลเป็นจะมีขนาดที่เล็กมาก ๆ กระจายตามรูขุมขนบนหนังศีรษะ ทำให้สามารถไว้ผมสั้นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น อีกทั้งวิธีการเจาะแบบ FUE ทำให้ใช้เวลาการพักฟื้นไม่นาน แผลเป็นสามารถหายได้ภายใน 1 สัปดาห์เท่านั้นและไม่มีอาการเจ็บหลังการทำ FUE ส่วนข้อเสียของขั้นตอนการปลูกผมนี้คือความหนาแน่นของเส้นผมที่อาจจะลดลงตามจำนวนกอที่ได้เจาะออกไป ทำให้เทคนิค FUE ไม่เหมาะกับเคสที่ต้องการเส้นผมปริมาณมาก ๆ หรือเคสที่ต้องทำถึง 2 ครั้ง อาจทำให้กราฟผมไม่พอและอาจเกิดอาการผมบางที่ด้านหลังศีรษะแทน

สรุปขั้นตอนการปลูกผมของทั้ง 2 เทคนิค

จากข้อมูลข้างต้น จะทำให้เห็นถึงขั้นตอนการปลูกผมของเทคนิค FUT และ FUE แบบละเอียดกันแล้ว ซึ่งสามารถใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจเลือกเทคนิคการปลูกผมที่เหมาะสมกับคุณมากได้ แต่ข้อสำคัญของขั้นตอนการปลูกผมทั้ง 2 วิธีนี้ที่คุณต้องคำนึงถึงก็คือ ความจำเป็นที่ต้องอาศัยความชำนาญจากแพทย์เฉพาะทางเท่านั้นในการทำ เพราะในขั้นตอนการปลูกผมเหล่านี้นับเป็นการผ่าตัดประเภทหนึ่งที่มีความเสี่ยง ดังนั้นให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกขั้นตอนการปลูกผมแบบใดลงไปก็ตาม


ปรึกษาออนไลน์ฟรีกับคุณหมอ