ผมร่วงเป็นหย่อมมีวิธีรักษาอย่างไร ปลูกผมช่วยได้จริงไหม?
ผมร่วงเป็นหย่อม ผมร่วงเป็นกระจุก ผมร่วงเป็นวงเหมือนหนูแทะ! ปัญหากวนใจที่ผู้หญิงและผู้ชายมักจะพบเจอเมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 20-40 ปี ซึ่งมักจะเกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือน กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้ไปเสียแล้ว! แต่แน่นอนว่า หากรู้จักลักษณะอาการ และเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคผมร่วงเป็นหย่อม คุณก็จะสามารถหาแนวทางป้องกัน รวมถึงวิธีแก้ปัญหาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กลับมาได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย
ในบทความนี้คลินิกปลูกผม Grow & Glow จึงจะพาคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายที่กังวลเกี่ยวกับโรคผมร่วงเป็นหย่อมมาทำความรู้จักกับลักษณะอาการและสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ รวมถึงแนวทางการรักษาที่เห็นผล และช่วยสร้างความมั่นใจให้กลับมาได้
โรคผมร่วงเป็นหย่อมคืออะไร?
โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) คือโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้การร่วงของผมมีลักษณะเป็นวงกลมตั้งแต่ 1-2 วงไปจนถึงหลายวงทั่วทั้งศีรษะ และจะไม่พบอาการผิดปกติใด ๆ ในบริเวณที่ผมร่วง ทำให้สังเกตอาการได้ยาก โดยมักจะพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชายที่อยู่ในช่วงวัย 20-40 ปี รวมถึงผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ด้วย
โรคผมร่วงเป็นหย่อมเกิดจากอะไร?
ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคผมร่วงเป็นหย่อมอย่างแน่ชัด แต่คาดว่าอาจเกิดได้จากปัจจัย ดังนี้
- ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันไปทำลายเซลล์รากผมบางบริเวณ ส่งผลให้ผมร่วงอย่างรวดเร็ว และสามารถลุกลามจนผมร่วงหมดศีรษะ
- ปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ เช่น การได้รับยาบางชนิด ความเครียดรุนแรง มีเชื้อราบนหนังศีรษะ พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น
- โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคด่างขาว (Vitiligo) โรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อตัวเอง (Autoimmune Diseases) โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) โรคเอสแอลอี (Systemic Lupus Erythematosus) เป็นต้น
โรคผมร่วงเป็นหย่อมพบได้บ่อยแค่ไหน มักพบในคนกลุ่มใด?
อาการผมร่วงเป็นหย่อม พบได้ประมาณ 0.2% ของประชากรทั้งหมด โดยมักจะพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชายที่อยู่ในช่วงวัย 20-40 ปี รวมถึงผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ ผู้เป็นโรคบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ด่างขาว โรคไทรอยด์บางชนิด โรคแพ้ภูมิตัวเองบางชนิด เป็นต้น
โรคผมร่วงเป็นหย่อม อาการเป็นอย่างไร?
ผมร่วงเป็นหย่อมจะมีขอบเขตชัดเจน อาจเป็นหย่อมเดียว หรือหลายย่อม โดยผิวหนังบริเวณที่ผมร่วงจะเหมือนผิวหนังปกติ รูขุนขนไม่โดนทำลาย นอกจากนี้อาจพบขนบริเวณอื่น ๆ ร่วงร่วมด้วย เช่น ขนคิ้ว ขนตา หนวดเครา เป็นต้น แต่ในผู้ป่วยบางราย เล็บมือ เล็บเท้าอาจมีอาการผิดปกติ เช่น เล็บร่อน เล็บเปราะ เล็บผิดรูป เป็นต้น
โรคผมร่วงเป็นหย่อมมีกี่แบบ?
โรคผมร่วงเป็นหย่อมแบ่งออกเป็น 3 แบบ ได้แก่
- Alopecia areata (AA) คือการมีผมร่วงเป็นหย่อม ๆ บริเวณศีรษะ ขนคิ้ว ขนตา หนวดเครา และขนบริเวณใบหน้าหรือลำตัว เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้รูขุมขนอ่อนแอ
- Alopecia totalis (AT) คือผมบริเวณศีรษะร่วงเป็นหย่อมจำนวนมากจนร่วงหมดศีรษะ และอาจรวมถึงขนคิ้วและขนตาด้วย เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าไปทำลายเซลล์รากผม แต่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการใช้ยาทาร่วมกับยาฉีดเฉพาะที่ เพื่อลดการอักเสบของรูขุมขนและช่วยซ่อมเซลล์รากผมที่ฝ่อตัวได้
- Alopecia universalis (AU) เกิดจากการเป็นโรคผมร่วงหมดศีรษะ (Alopecia totalis – AT) และลุกลามจนเป็นโรคขนร่วงทั่วตัว
โรคผมร่วงเป็นหย่อมเป็นแล้วหายได้ไหม?
หายได้ โดยผมจะงอกเต็มหย่อมภายใน 6-12 เดือน แต่ส่วนใหญ่มักไม่หายขาด ผู้ป่วยบางรายกลับมาเป็นซ้ำในปีแรก หรืออาจเป็นเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ
ผมร่วงเป็นหย่อม รักษาอย่างไรได้บ้าง?
วิธีรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงหรือชนิดของโรค นอกจากนี้ยังมีทั้งวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และวิธีที่ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้รักษาให้ ดังนี้
1. การรักษาที่ระบบภูมิคุ้มกัน
โดยการใช้ยากดภูมิแบบต่าง ๆ ทั้งแบบมีสเตียรอยด์ และไม่มีสเตียรอยด์ โดยมีให้เลือกทั้งแบบยาทาเฉพาะที่ ยากิน และยาฉีดเข้าผิวหนังบริเวณที่ผมร่วง เพื่อกดภูมิคุ้มกันให้ทำงานน้อยลง และกระตุ้นให้ผมงอกใหม่มากขึ้น แต่จะขึ้นประมาณ 90% ภายใน 4-6 สัปดาห์หลังการรักษา และคงอยู่ประมาณ 3 เดือน
2. การกระตุ้นรากผม
การกระตุ้นรากผมในบริเวณที่ผมร่วงเป็นกระจุก จะช่วยให้รากผมกลับมางอกผมเส้นหนา และคุณภาพดีเหมือนเดิมได้ โดยมีให้เลือกหลากหลายวิธี เช่น การกระตุ้นด้วยเลเซอร์ LLLT, การฉีด PRP เป็นต้น
3. การรักษาแพทย์ทางเลือก
การรักษาแพทย์ทางเลือก เช่น การทำ สุคนธบำบัด และการฝังเข็ม ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีงานวิจัยที่สามารถยืนยันว่าสามารถรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อมได้จริง แต่ก็มีผู้ที่รักษาแล้วเห็นผลอยู่
4. การผ่อนคลายความเครียด
ความเครียดส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ และกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่รบกวนการทำงานของเส้นผม ทำให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงได้ ดังนั้นหากรู้ตัวว่าอยู่ในสภาวะเครียด แนะนำให้หากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายความเครียด หรือหากเครียดสะสมมานาน ควรปรึกษาจิตแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างจริงจัง
5. การรักษาด้วยการปลูกผม
การปลูกผมถาวร เป็นวิธีรักษาที่ช่วยสร้างความมั่นใจกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ผู้ที่จะทำวิธีนี้ได้โรคผมร่วงเป็นหย่อมจะต้องสงบแล้วเท่านั้น โดยสามารถที่จะปลูกผมทดแทนได้ในกรณีที่ผมกลับขึ้นมาแต่ไม่ 100% ซึ่งในปัจจุบันก็มีวิธีปลูกผมให้เลือกหลากหลายเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคปลูกผมแบบ FUE ที่ใช้วิธีเจาะเซลล์รากผม เพื่อดึงเซลล์รากผมออกมาโดยตรง แล้วนำไปปลูกผมบริเวณที่ต้องการ และเทคนิคปลูกผมแบบ FUTที่เป็นการผ่าตัดด้วยการกรีดหนังศีรษะตื้น ๆ เพื่อคัดแยกเซลล์รากผม แล้วนำไปปลูกผมบริเวณที่ต้องการ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคผมร่วงเป็นหย่อม
1. ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ อันตรายไหม?
ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ส่งผลต่อความมั่นใจ เพราะบางรายผมอาจจะไม่สามารถงอกใหม่ได้เอง และลุกลามจากวงเล็กเป็นวงใหญ่ จนผมร่วงหมดศีรษะได้ นอกจากนี้ยังอาจมีผลต่อการร่วงของขนบริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น หนวด เครา ขนคิ้ว ขนตา เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม ก็ควรจะรีบพบแพทย์ตั้งแต่อาการยังไม่รุนแรงมาก เพื่อให้แพทย์ตรวจเช็กสาเหตุของการเกิดโรคให้แน่ชัด และแนะนำวิธีรักษาที่เหมาะสม
2. ผมร่วงเป็นหย่อมกี่วันถึงจะหาย?
ประมาณ 6-12 เดือน
3. ผมร่วงเป็นหย่อม หายเองได้ไหม?
สามารถหายได้เอง และผมบริเวณดังกล่าวจะงอกใหม่ในเวลาประมาณ 6-12 เดือน
สรุปเกี่ยวกับโรคผมร่วงเป็นหย่อม
แม้ว่าโรคผมร่วงเป็นหย่อม จะไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต และสามารถหายได้เอง แต่ก็เป็นโรคที่ส่งผลต่อจิตใจและการใช้ชีวิตของผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่พอสมควร นอกจากนี้หากไม่ได้รับการรักษาเพื่อหาวิธีให้ผมหยุดร่วงในระยะยาว ก็อาจจะเกิดโรคนี้ซ้ำได้อีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่เคยเป็นและผู้ที่เป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม ก็ควรจะดูแลตัวเองให้ดี และเข้าพบแพทย์ รวมถึงทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอาการผมร่วงให้หายไปนอกจากนี้ สำหรับผู้ที่เคยเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม แล้วเกิดปัญหาผมไม่งอกขึ้นใหม่ก็สามารถเข้ามาใช้บริการปลูกผมถาวรที่ คลินิกปลูกผม Grow & Glow พร้อมรับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย โดยแพทย์ของเราจบการศึกษาเฉพาะทางด้านการปลูกผมจากสถาบันชั้นนำระดับโลก และมีการวางแผนรวมถึงประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน