
Hair Transplant
ศัลยกรรมปลูกผม
ศัลยกรรมปลูกผม (Hair Transplantation) เป็นหนึ่งในวิธีการปลูกผมโดยการศัลยกรรมผิวหนัง แพทย์จะทำการย้ายรากผมจากบริเวณที่มีความแข็งแรง เช่น บริเวณท้ายทอยหรือด้านข้างของศีรษะ มายังบริเวณที่มีปัญหาด้านเส้นผม เพื่อทำการปลูกผมถาวรลงบนบริเวณที่มีปัญหาเส้นผม เช่น ปัญหาผมบาง หรือ ศีรษะล้าน ตามบริเวณแนวผมและบริเวณกลางศีรษะ จึงเป็นการศัลยกรรรมที่ต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านของคลินิกปลูกผมเท่านั้น
ศัลยกรรมปลูกผมถาวรได้จริงหรือไม่ ?
การศัลยกรรมปลูกผมนับเป็นวิธีการปลูกผมถาวรที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาเการศัลยกรรมปลูกผมนับเป็นวิธีการปลูกผมถาวรที่ดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหาเส้นผม รักษาผมบางได้อย่างเห็นผล เพราะเป็นวิธีการย้ายรากผมจากบริเวณที่มีอิทธิพลจากฮอร์โมนน้อยไปยังบริเวณที่มีอิทธิพลจากฮอร์โมนมาก รากผมที่ทำการย้ายนำไปปลูกใหม่ จึงสามารถเติบโตและคงอยู่ได้อย่างถาวร ให้ผลลัพธ์การปลูกผมอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับวิธีปลูกผมแบบอื่น เช่น วิธีการกินยาหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ปลูกผมที่ไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ในแต่ละคนได้
ศัลยกรรมปลูกผมเหมาะกับใคร ?
การศัลยกรรมปลูกผมเหมาะสำหรับกับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้าน, ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงสาเหตุจากพันธุกรรม (ขึ้นกับความรุนแรง), ปลูกผมผู้หญิงเพื่อปรับกรอบหน้าสำหรับแก้หน้าผากเถิก, ปลูกผมทับรอยแผลเป็น เช่น แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลผ่าตัดศีรษะ หรือปลูกผมทับโรคผมร่วงชนิดที่ทำให้เกิดแผลเป็น ด้วยเทคนิคศัลยกรรมปลูกผมจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และทำการปลูกผมใหม่ให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด
ศัลยกรรมปลูกผมที่ให้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ
วิธีปลูกผมที่ให้ผลลัพธ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุดในปัจจุบัน ที่ทางคลินิกเวชกรรมโกรว์แอน์โกลว์ได้เปิดให้บริการมี 2 เทคนิคตามมาตรฐานขององค์กรปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) คือ เทคนิค Follicular Unit Transplantation (FUT) และ เทคนิค Follicular Unit Excision (FUE) สามารถรับคำปรึกษาเทคนิคการปลูกผมแบบเป็นธรรมชาติที่เหมาะสมกับคุณได้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของเรา
วิธีปลูกผมถาวรเทคนิคไหนดี เหมาะกับปัญหาผมของคุณ?
แท้จริงแล้ว วิธีปลูกผมด้วยเทคนิคปลูกผม FUE ที่ใช้วิธีการเจาะเซลล์รากผม และเทคนิคปลูกผม FUT ที่เป็นการผ่าตัดด้วยการกรีดหนังศีรษะตื้นๆนั้น ต่างให้ผลลัพธ์ในการปลูกผมถาวรที่คล้ายคลึงกัน แต่อาจจะมีข้อแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาเส้นผมของแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งก่อนการเลือกเทคนิคศัลยกรรมปลูกผมควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ศัลยกรรมพลาสติกเฉพาะทางด้านการปลูกผมที่ Grow and Glow เพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล เนื่องจากการรักษาด้วยวิธีการปลูกผม จำเป็นต้องประเมินทั้งสาเหตุ อายุ คุณภาพของเส้นผม และความรุนแรงไปพร้อมๆ กันก่อนจะเริ่มปลูกผมถาวรได้
รูปแบบของการผ่าตัดปลูกผม
ศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUT จะเป็นการที่แพทย์นำกราฟผมออกมา จากบริเวณที่มีกราฟผมแข็งแรง โดยการผ่าตัดด้วยการกรีดหนังศีรษะตื้น ๆ ลากยาวไปตามบริเวณท้ายทอย จากนั้นทำการแยกเฉพาะเซลล์รากผมโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ จนได้หน่วยรากผมที่เล็กที่สุดก่อนนำไปปลูกผมในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งจะแตกต่างกับเทคนิคศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUE ตรงที่ทางเทคนิคปลูกผม FUE จะใช้เครื่องมือพิเศษที่มีหัวเจาะขนาดเล็กมากในการเจาะเซลล์รากผม ให้เป็นรูขนาดเล็ก กระจายอยู่ทั่วศีรษะ ทำให้ไม่มีแผลของฝีเย็บ
ระยะเวลาการผ่าตัดและพักฟื้น
เนื่องจากเทคนิคการศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUT ต้องมีการผ่าตัดเป็นแนวยาวบริเวณท้ายทอย ทำให้มีแผลเป็นค่อนข้างยาวกว่าเทคนิคศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUE ที่ใช้เข็มขนาดเล็กซึ่งให้แผลที่ออกมาเป็นรูขนาดเล็ก กระจายทั่วศีรษะ จึงทำให้หลังจากการปลูกผมแบบ FUT ต้องใช้เวลาการพักฟื้นที่นานกว่า และเทคนิค FUT ควรไว้ผมยาวประมาณ 2 เซนติเมตร เพื่อบดบังแผลผ่าตัดเอาไว้
จำนวนกราฟเส้นผมในการปลูกผม
เทคนิค FUT เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผมที่ทำให้ได้จำนวนกราฟเส้นผมจำนวนครั้งละมาก ๆ ที่จะมีความแข็งแรง สมบูรณ์ค่อนข้างสูง และมีการหลุดร่วงของเส้นผมน้อยที่สุด เพราะเทคนิคการศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUT ถือเป็นวิธีการศัลยกรรมปลูกผมมาตรฐานที่ทำให้ได้เซลล์รากผมซึ่งมีโอกาสเสียหายหรือบอบช้ำน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUE
ศัลยกรรมปลูกผมราคาเท่าไหร่ ?
การศัลยกรรมปลูกผมถาวรราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลหรือตามความรุนแรงของอาการ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการกินยาหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ปลูกผมที่ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล หรืออาจไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้เลยนั้น การปลูกผมถาวรราคาอาจคุ้มค่ามากกว่า อีกทั้งเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าอีกด้วย