
ผู้ชายผมร่วงเกิดจากอะไรบ้าง ? หาคำตอบที่นี่
อาการผมร่วงในผู้ชายเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยและสร้างความกังวลใจไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัย 30 ปีขึ้นไป โดยหลายคนอาจสังเกตเห็นว่าผมเริ่มบางลงอย่างช้า ๆ หรือเกิดบริเวณที่เถิกชัดเจนมากขึ้น ขณะที่บางรายอาจร่วงเป็นหย่อม หรือกระจายทั่วหนังศีรษะ ซึ่งสาเหตุของผมร่วงในผู้ชายไม่ได้มีเพียงปัจจัยเดียว แต่เป็นเรื่องของหลายระบบในร่างกายที่ทำงานร่วมกัน ทั้งพันธุกรรม ฮอร์โมน สุขภาพโดยรวม และสิ่งแวดล้อม บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าผู้ชายผมร่วงเกิดจากอะไรอย่างรอบด้าน พร้อมแนวทางการรักษาที่เหมาะสม

สาเหตุผมร่วงในผู้ชาย
1. พันธุกรรมและฮอร์โมน DHT
สาเหตุอันดับหนึ่งของผมร่วงในผู้ชาย คือ “พันธุกรรม” หรือที่เรียกว่า Androgenetic Alopecia ซึ่งมักสัมพันธ์กับการตอบสนองของรูขุมขนต่อฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ฮอร์โมนนี้จะไปย่อขนาดรูขุมขน ทำให้เส้นผมค่อย ๆ บางลง และหยุดเจริญเติบโตในที่สุด ผมร่วงชนิดนี้มักแสดงอาการโดยเริ่มที่บริเวณหน้าผากและกลางกระหม่อม
2. ความเครียดเรื้อรัง (Chronic Stress)
ความเครียดเรื้อรัง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายผมร่วงได้เช่นกัน เพราะความเครียดนั้นรบกวนรอบการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยกระตุ้นให้รูขุมขนเข้าสู่ระยะพัก (Telogen Phase) เร็วกว่าปกติ ภาวะนี้เรียกว่า Telogen Effluvium ซึ่งจะทำให้ผมร่วงกระจายทั่วศีรษะ และแม้ว่าโดยทั่วไปจะสามารถกลับมาได้ หากจัดการความเครียดได้ดี แต่หากปล่อยไว้เป็นเวลานานก็อาจส่งผลถาวรได้เช่นกัน
3. ขาดสารอาหารสำคัญ
เส้นผมต้องการสารอาหารหลายชนิดในการเจริญเติบโต เช่น โปรตีน, ธาตุเหล็ก, สังกะสี, วิตามิน B-Complex, วิตามิน D และกรดไขมันโอเมกา 3 ดังนั้น การขาดสารอาหารเหล่านี้ ไม่ว่าจะเกิดจากการกินอาหารไม่หลากหลาย การลดน้ำหนักแบบผิดวิธี หรือโรคที่ส่งผลต่อการดูดซึมสารอาหาร ก็สามารถส่งผลให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่าย นำไปสู่อาการผมร่วงในผู้ชายที่รุนแรงขึ้น
4. ภาวะทางสุขภาพ
โรคประจำตัวบางชนิดสามารถส่งผลให้เกิดการร่วงของเส้นผมได้ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบฮอร์โมนและการเผาผลาญ เช่น
- ภาวะไทรอยด์ผิดปกติ : ทั้งภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (Hyperthyroidism) และไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป (Hypothyroidism) ก็ล้วนส่งผลต่อเส้นผม เนื่องจากฮอร์โมนไทรอยด์มีบทบาทสำคัญในการควบคุมวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม
- โรคเบาหวาน : ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไป สามารถทำลายหลอดเลือดที่นำสารอาหารไปเลี้ยงรากผม นอกจากนี้ ผู้ป่วยเบาหวานมักมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะการติดเชื้อที่หนังศีรษะ ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
- โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง : ภาวะโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันโจมตีรูขุมขน ทำให้เกิดการร่วงของเส้นผมเป็นหย่อมกลม ๆ
5. พฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผมโดยไม่รู้ตัว
หลายคนอาจไม่รู้ว่า พฤติกรรมในชีวิตประจำวันก็มีผลกับสุขภาพผม เช่น
- สระผมบ่อยเกินไปหรือใช้แชมพูที่รุนแรง
- ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีแอลกอฮอล์สูง
- ไดร์ผมหรือหนีบผมด้วยความร้อนบ่อย ๆ
- ใส่หมวกแน่นตลอดวัน หรือมัดผมตึงจนเกินไป
พฤติกรรมเหล่านี้มีโอกาสทำให้หนังศีรษะอักเสบ รากผมอ่อนแอ และเส้นผมหลุดร่วงได้ง่ายกว่าปกติ
แนวทางรักษาผมร่วงในผู้ชาย
1. ยารักษาผมร่วงที่ได้รับการรับรอง
ปัจจุบันมียาหลักที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ในการรักษาอาการผมร่วงในผู้ชาย เช่น
- ฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) : ยารับประทานที่ออกฤทธิ์ด้วยการยับยั้งเอนไซม์ 5-Alpha Reductase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่แปลงเทสโทสเตอโรนเป็น DHT การลดระดับ DHT จะช่วยชะลอการร่วงของเส้นผมและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ในบางกรณี
- มิน็อกซิดิล (Minoxidil) : ยาทาเฉพาะที่ ใช้บริเวณหนังศีรษะ ออกฤทธิ์ด้วยการขยายหลอดเลือดเล็ก ๆ ใต้หนังศีรษะ ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงรากผมได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังกระตุ้นเอนไซม์ Sulfotransferase ซึ่งช่วยในการเปลี่ยนผ่านของวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมจากระยะพัก (Telogen) ไปสู่ระยะเจริญเติบโต (Anagen)
แพทย์มักแนะนำให้ใช้ทั้งฟิแนสเทอไรด์และมิน็อกซิดิลร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากยาทั้งสองตัวทำงานด้วยกลไกที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาผลลัพธ์
2. การปลูกผมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่
การปลูกผม เป็นทางเลือกสำหรับรักษาผมร่วงในผู้ชายที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่สูญเสียเส้นผมไปมากแล้ว หรือไม่ตอบสนองดีต่อการรักษาด้วยยา โดยในปัจจุบัน เทคนิคปลูกผมถาวรที่ได้รับความนิยมมีดังนี้
- FUT (Follicular Unit Transplantation) : การปลูกผม FUT คือเทคนิคดั้งเดิมที่แพทย์จะตัดแถบหนังศีรษะจากบริเวณท้ายทอย แล้วนำมาคัดแยกกราฟ (Graft) เพื่อปลูกในจุดที่ผมบาง เหมาะกับผู้ที่ต้องการกราฟจำนวนมาก แต่จะมีแผลเป็นลักษณะแนวยาวที่ท้ายทอย
- FUE (Follicular Unit Excision) : เทคนิคที่พัฒนาขึ้นโดยการเจาะกราฟออกจากหนังศีรษะทีละหน่วย โดยไม่ต้องมีการตัดแถบหนังศีรษะ ลดรอยแผลและระยะเวลาฟื้นตัว นิยมอย่างมากในปัจจุบันเพราะแผลมีขนาดเล็กและไม่ทิ้งรอยชัดเจน
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปลูกผมเพื่อประเมินความเหมาะสมของเทคนิค รูปแบบการหลุดร่วงของเส้นผม และผลลัพธ์ที่คาดหวัง โดยแพทย์จะวางแผนการปลูกผมให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเห็นผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและดูเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง

3. การฉีด PRP (Platelet-Rich Plasma)
เทคนิคนี้เป็นการใช้เลือดของผู้ป่วยเองนำมาปั่นแยกเกล็ดเลือดเข้มข้น และฉีดกลับเข้าไปที่หนังศีรษะบริเวณที่ผมบาง PRP อุดมไปด้วย Growth Factors ที่กระตุ้นการฟื้นฟูรูขุมขน ช่วยชะลอผมร่วงและเพิ่มความหนาแน่นของเส้นผม เหมาะกับผู้ที่มีอาการผมร่วงในผู้ชายระยะเริ่มต้น
4. เสริมวิตามินและปรับโภชนาการ
การรับประทานอาหารเสริม เช่น Biotin, Zinc, Iron, วิตามิน D, วิตามิน B12 และ กรดโฟลิก อาจช่วยให้เส้นผมเจริญเติบโตได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่ตรวจพบการขาดวิตามินเหล่านี้ นอกจากนั้น การรับประทานอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ และเน้นโปรตีนจากปลา ไข่ ถั่ว และผักใบเขียวเข้ม ก็มีส่วนช่วยเสริมสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมได้ในระยะยาวเช่นกัน
5. เปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อหนังศีรษะที่แข็งแรง
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตก็สามารถช่วยชะลออาการผมร่วงในผู้ชายได้ เช่น
- หลีกเลี่ยงความเครียด ด้วยการออกกำลังกายและนอนหลับเพียงพอ
- เลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนสำหรับหนังศีรษะแพ้ง่าย
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือสารเคมีรุนแรง
- งดใช้ความร้อนกับเส้นผมโดยไม่จำเป็น
- ไม่สระผมบ่อยเกินวันละ 1 ครั้ง และเช็ดให้แห้งเบา ๆ
ผมร่วงไม่ใช่จุดจบของความมั่นใจ
ถึงแม้ผมร่วงในผู้ชายเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยง แต่ก็ไม่ใช่จุดจบของความมั่นใจอย่างที่หลายคนกังวล โดยหากเริ่มสังเกตเห็นว่ามีเส้นผมหลุดร่วงมากกว่าปกติ หรือมีจุดที่เริ่มบางลงอย่างเห็นได้ชัด การรีบเข้าพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมตั้งแต่เนิ่น ๆ คือกุญแจสำคัญในการรักษาให้ได้ผล เพราะหากปล่อยไว้นานเกินไป รูขุมขนอาจปิดตายอย่างถาวรและไม่สามารถฟื้นฟูได้อีก
อีกทั้งการดูแลเส้นผมให้แข็งแรง ต้องเริ่มต้นจากการเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง ดังนั้น จึงควรเลือกแนวทางรักษาที่เหมาะสมกับตนเอง และให้เวลากับการฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ เพราะสุดท้ายแล้ว ผมที่แข็งแรงไม่ใช่แค่เรื่องของภาพลักษณ์ แต่คือความมั่นใจที่อยู่กับคุณในทุกช่วงวัย
เมื่อได้ทราบแล้วว่าผู้ชายผมร่วงเกิดจากอะไร ก็อย่าปล่อยให้ภาวะผมร่วงทำลายความมั่นใจของคุณอีกต่อไป เพราะปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการรักษาที่เหมาะสม ให้ Grow & Glow Clinic ศูนย์ปลูกผมที่มีแพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ (หมอเบนซ์) แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปลูกผมที่ได้รับการรับรองจากสถาบันระดับโลก คอยดูแลทุกเคสด้วยตัวเอง พร้อมให้บริการทั้งการปลูกผม FUT, FUE, และ DHI ราคาคุ้มกับคุณภาพที่ได้รับ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและทีมแพทย์ด้านการปลูกผมโดยตรง กรอกฟอร์มวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาออนไลน์กับคุณหมอ ฟรี หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @clinicgrowandglow หรือโทร. 084-501-9989
ข้อมูลอ้างอิง
- 1. Men’s Hair Loss: Treatments and Solutions. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/ss/slideshow-men-hair-loss-treatment