รังแค ปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม
“รังแค” เมื่อพูดถึงอาการของโรคนี้ เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ทำให้ขาดความมั่นใจ กับเกล็ดสีขาวที่ไม่รู้จะร่วงหล่นมากระทบไหล่เมื่อไหร่ ในขณะที่ต้องไปพบปะสังคมภายนอก และยิ่งทำให้เสียบุคลิกภาพ ด้วยอาการคันยุบยิบบนหนังศีรษะ จะให้เกาหัวทั้งวันก็คงจะไม่ได้ บทความนี้จะมี 7 วิธีขจัดรังแคด้วยวิธีทางธรรมชาติ ช่วยให้หนังศีรษะสะอาดปราศจากรังแคมาฝากกัน
อาการของรังแคเป็นอย่างไร
ทราบหรือไม่ว่าในร่างกายของเราจะมีฮอร์โมนชนิดหนึ่ง เรียกว่า ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ฮอร์โมนชนิดนี้จะชอบไปกระตุ้นต่อมไขมัน ให้ร่างกายของเราผลิตความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ ส่งผลให้เชื้อรา Malassezia เจริญเติบโตได้มากยิ่งขึ้น โดยนำเอาไขมันเหล่านี้ไปเป็นอาหาร
และเชื้อราเหล่านี้จะปล่อยสารบางชนิดออกมาที่กระตุ้นให้หนังศีรษะเกิดการอักเสบ มีอาการคันยุบยิบ เป็นผื่นแดงบนหนังศีรษะเสียก่อน และตามมาด้วยหนังศีรษะที่หลุดลอกเกล็ดสีขาว ซึ่งอาการของรังแคจะมา ๆ หาย ๆ หากยังหาวิธีขจัดรังแคไม่ถูกจุด และยังทำพฤติกรรมแบบเดิม
7 วิธีขจัดรังแคแบบธรรมชาติ คืนความสะอาดให้เส้นผม
1. เป่าผมให้แห้งทุกครั้งหลังสระผม
แน่นอนว่า แม้จะสระผมสะอาดทุกครั้ง ก็อาจเผชิญกับรังแคได้เช่นกัน หากไม่เป่าผมให้แห้ง ทำให้เกิดการสะสมความชื้น ซึ่งเป็นแหล่งเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราบ่อเกิดของปัญหารังแค เพราะฉะนั้นหลังสระผมทุกครั้ง จึงควรเป่าผมให้แห้งสนิท โดยใช้พัดลมเป่าผม หรือใครต้องการอยากใช้ไดร์เป่าผม ควรจะใช้เป็นโหมดลมเย็น ถือเป็นวิธีขจัดรังแคที่ดีที่สุด และไม่ทำให้ผมและหนังศีรษะแห้ง
2. สระผม 3 – 4 วันต่อสัปดาห์
การสระผม เป็นวิธีขจัดรังแคที่ดีเช่นกัน เพราะจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่สะสมมาตลอดทั้งวัน จากทั้งฝุ่น และคราบความมันบนหนังศีรษะ เพราะสาเหตุของรังแคสิ่งหนึ่งก็มาจากการไม่สระผม ยิ่งส่งผลให้หนังศีรษะมัน และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย
ดังนั้นจึงควรจะสระผมวันเว้นวัน จะช่วยขจัดความมันบนหนังศีรษะ ไม่ให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่ควรสระผมทุกวัน เพราะจะส่งผลให้หนังศีรษะแห้งได้ และในขณะที่สระผมไม่ควรขยี้ผมแรง ๆ หรือเกาแรงจนเกินไป เพราะจะทำให้หนังศีรษะเกิดอาการอักเสบ และเป็นรังแคในที่สุด
3. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับเส้นผม
หากใครกำลังเป็นรังแคอยู่ ควรหลีกเลี่ยงการทำสีผม ดัดผม หรือการใช้สารเคมีทาลงไปบนหนังศีรษะ เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหารังแคที่รุนแรงกว่าเดิม อาทิ การระคายเคือง หนังศีรษะอักเสบรุนแรง เป็นแผลบนหนังศีรษะได้เช่นกัน ดังนั้นควรงดการใช้สารเคมีกับเส้นผมไปเสียก่อน และหาวิธีขจัดรังแคให้หายขาดก่อน เพื่อบำรุงรากผมให้กลับมาแข็งแรง
4. หลีกเลี่ยงการแกะและเกาหนังศีรษะ
พฤติกรรมที่ควรเลี่ยงมากที่สุดที่อาจทำให้เกิดปัญหารังแคที่รุนแรงยิ่งขึ้น นั้นก็คือ การเกาหนังศีรษะขณะที่กำลังเป็นรังแคอยู่ เพราะจะทำให้หายขาดได้ช้า ยิ่งเกาหนังศีรษะมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้เกิดรังแคหนักกว่าเดิมมากเท่านั้น อีกทั้งยังส่งผลให้หนังศีรษะอักเสบ และทำให้เส้นผมหลุดร่วงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
5. สระผมอย่างถูกวิธีและใช้ครีมนวดผม
การสระผมอย่างถูกวิธี เป็นอีกหนึ่งวิธีขจัดรังแคที่ดี โดยขณะสระผมควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ควรใช้น้ำร้อน เพราะจะยิ่งส่งทำให้เส้นผมแห้งมากกว่าเดิมได้ และควรจะเริ่มจากการเทยาสระผมลงฝ่ามือ ขยี้กับน้ำให้เกิดฟองก่อน เพราะหากเทยาสระผมลงไปยังหนังศีรษะเลย จะทำให้หนังศีรษะระคายเคืองได้ และไม่ควรขยี้หนังศีรษะแรงจนเกินไป หรือเกาด้วยปลายนิ้วเบา ๆ เท่านั้น
ตามด้วยการใช้ครีมนวดบำรุงเส้นผม โดยใช้บำรุงที่ปลายผมเท่านั้น ไม่ทาลงบริเวณโคนผม เพราะหากทาลงบริเวณโคนผม อาจจะยิ่งทำให้หนังศีรษะมันและเกิดรังแคได้
6. ใช้แชมพูสูตรขจัดรังแค
สำหรับใครที่เป็นรังแคอยู่นั้น ควรเลือกแชมพูที่มีสรรพคุณช่วยขจัดรังแค ซึ่งจะช่วยบำรุงหนังศีรษะได้อย่างตรงจุด เพราะจะช่วยลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดรังแคได้
7. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม
อย่างที่ทราบกันดีว่า รังแคเกิดจากต่อมไขมันบนหนังศีรษะ ที่ผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินไป การรับประทานอาหารที่กระตุ้นการสร้างน้ำมันของต่อมไขมัน ล้วนส่งผลให้เกิดรังแคไม่มากก็น้อย ดังนั้นวิธีขจัดรังแคอีกหนึ่งวิธีนั่นก็คือ การปรับพฤติกรรมการกิน ควรเลี่ยงการทานแอลกอฮอล์ เกลือ เมนูที่เผ็ดและมันมากจนเกินไป
และควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น อาทิ ปลาทะเลน้ำลึก กรดไขมันดี โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 วิตามินบี และพวกแร่ธาตุสังกะสี เพราะด้วยวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้จะเข้าไปช่วยการอักเสบของหนังศีรษะ และปรับสมดุลการทำงานของต่อมไขมันให้กลับมาทำงานได้ในระดับปกติ
สรุปบทความ
รังแค หากปล่อยทิ้งไว้นาน ก็ยิ่งจะส่งผลเสียให้กับตัวเรามากขึ้นทุกวัน ปัญหานี้จะหมดไปได้ด้วยวิธีขจัดรังแคที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง จากการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำเพียงไม่กี่ข้อ สำหรับใครที่กำลังกังวลปัญหารังแค หรือปฏิบัติตามวิธีข้างต้นแล้วก็ยังไม่ได้ผล แนะนำว่าควรรีบเข้าปรึกษากับคลินิครักษาผมร่วง ที่ได้มาตรฐานอย่าง Grow and Glow Hair Clinic เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม เพราะหากปล่อยให้ปัญหารังแคเรื้อรัง ก็จะยิ่งส่งผลให้มีรังแคเยอะขึ้นและทำให้ผมร่วงมากยิ่งขึ้น เกิดปัญหาเส้นผมตามมาอีกมากมายได้