รู้จักโครงสร้างของเส้นผม พร้อมวิธีดูแลผมให้สุขภาพดี เงางาม
แม้เส้นผมจะดูเหมือนเพียงเส้นใยบาง ๆ ที่ปกคลุมหนังศีรษะ แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นโครงสร้างทางชีววิทยาที่มีความซับซ้อนของโมเลกุลโปรตีนและพันธะเคมีอย่างน่าทึ่งทีเดียว หลายคนอาจไม่รู้ว่าส่วนประกอบของเส้นผมนั้นมีหลายชั้นที่ทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ซึ่งหากทำความเข้าใจโครงสร้างเหล่านี้สักครั้ง อาจทำให้คุณตระหนักได้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับเส้นผมของตนเอง และสามารถนำไปสู่การพัฒนาวิธีดูแลรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงสร้างของผมประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
โครงสร้างของเส้นผมมนุษย์ จะมีหลัก ๆ อยู่ 3 ชั้น ซึ่งทำหน้าที่ในการปกป้องและช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ได้แก่
1. คิวติเคิล (Cuticle)
ชั้นนอกสุดของเส้นผม ประกอบด้วยเซลล์ที่เรียงตัวซ้อนกันคล้ายกระเบื้องมุงหลังคา มีลักษณะเป็นเกล็ดบาง ๆ ใส ไม่มีสี ทำหน้าที่ดังนี้
- เป็นเกราะป้องกันชั้นแรกของเส้นผม ช่วยปกป้องผมชั้นในจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
- ช่วยรักษาความชุ่มชื้นภายในเส้นผม และควบคุมการแลกเปลี่ยนความชื้นกับสภาพแวดล้อม
- เมื่อคิวติเคิลเรียงตัวเป็นระเบียบ จะทำให้ผมดูเงางาม
- ช่วยยึดเกาะเส้นผมให้แข็งแรง ลดโอกาสการแตกปลาย
2. คอร์เท็กซ์ (Cortex)
ผมชั้นกลาง ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเส้นผมที่ใหญ่ที่สุด คิดเป็นประมาณ 90% ของเส้นผมทั้งหมด โดยมีความสำคัญ คือ
- เป็นส่วนที่กำหนดความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของเส้นผม
- เป็นที่อยู่ของเม็ดสีเมลานิน ซึ่งกำหนดสีธรรมชาติของเส้นผม
- เป็นตัวกำหนดลักษณะของเส้นผมว่าจะตรงหรือหยิก
- ประกอบด้วยโปรตีนเคราตินที่จัดเรียงตัวเป็นเส้นใยยาว ให้ความแข็งแรงแก่เส้นผม
3. เมดัลลา (Medulla)
ชั้นในสุดของเส้นผมซึ่งมีลักษณะเป็นท่อกลวง บางคนอาจไม่มีชั้นนี้ในเส้นผมก็ได้ แต่สำหรับคนที่มี ก็จะได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติต่าง ๆ ของเมดัลลา ได้แก่
- มีช่องว่างภายในที่บรรจุอากาศ ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิ
- ช่วยกำหนดความหนาและน้ำหนักของเส้นผม
- ช่วยให้เส้นผมสามารถปรับตัวต่อแรงกดและการดึงได้ดี
- มีบทบาทในการเจริญเติบโตของเส้นผมตั้งแต่รากผม
องค์ประกอบทางเคมีของเส้นผม
ส่วนประกอบของเส้นผมที่สำคัญที่สุด คือ โปรตีนเคราติน ซึ่งมีมากถึง 65-95% ของน้ำหนักเส้นผมทั้งหมด โดยโปรตีนชนิดนี้จะมีลักษณะพิเศษ คือ การจัดเรียงตัวกันเป็นเกลียวและเชื่อมต่อกันด้วยพันธะที่แข็งแรง ทำให้เส้นผมมีความทนทานและยืดหยุ่นได้ดี นอกจากนี้ ยังมีส่วนประกอบของเส้นผมอื่น ๆ อีก เช่น
- น้ำ องค์ประกอบสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่มีอยู่ประมาณ 10-15% หากขาดน้ำจะทำให้เส้นผมแห้งกรอบและเสียหายได้ง่าย
- ไขมัน ประมาณ 1-9% โดยจะมีทั้งที่ผลิตจากต่อมไขมันและที่แทรกอยู่ในโครงสร้างของเส้นผม ทำหน้าที่เคลือบผิวผมให้เงางามและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น
- เกลือแร่และแร่ธาตุต่าง ๆ ประมาณ 0.25-0.95% เช่น แคลเซียม เหล็ก สังกะสี และทองแดง ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและความแข็งแรงของเส้นผม
- เม็ดสีเมลานิน ให้สีธรรมชาติแก่เส้นผม มีทั้งชนิดที่ให้สีน้ำตาลถึงดำ และชนิดที่ให้สีแดงถึงเหลือง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อโครงสร้างของผมประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
พันธุกรรม
เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่กำหนดโครงสร้างของเส้นผมเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นความหนา ความหยาบ-ละเอียด สีผม และลักษณะการหยิก-ตรงของเส้นผม นอกจากนี้ ยังมีผลต่อการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน และอัตราการเจริญเติบโตของเส้นผม ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคลที่ถ่ายทอดผ่านทางยีนอีกด้วย
สภาพแวดล้อม
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพผม ทั้งสภาพอากาศ ความชื้น มลภาวะ และรังสี UV จากแสงแดด โดยอากาศที่แห้งและร้อนจัดสามารถทำให้ผมแห้งกรอบ เสียสุขภาพ ในขณะที่ความชื้นสูงก็อาจทำให้ผมชี้ฟู ไม่เป็นทรง ส่วนมลพิษในอากาศและรังสี UV ก็สามารถทำลายโครงสร้างของเส้นผมได้เช่นกัน
การใช้ความร้อน สารเคมี และการจัดแต่งทรงผม
การใช้ความร้อนและสารเคมีในการจัดแต่งทรงผม เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โครงสร้างของเส้นผมเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความร้อนจากเครื่องไดร์ เครื่องหนีบผม หรือเครื่องม้วนผม ก็ล้วนสามารถทำลายพันธะภายในเส้นผมและทำให้ผมแห้งเสียได้ ส่วนการย้อมผม ดัดผม หรือยืดผม ก็เป็นการใช้สารเคมีที่ทำลายโครงสร้างธรรมชาติของเส้นผม ทำให้ผมอ่อนแอและเสียหายได้ง่าย
โภชนาการ
การสร้างเส้นผมต้องอาศัยสารอาหารหลายชนิด โดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผม แล้วยังไม่รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีความจำเป็น เช่น วิตามินบี ไบโอติน วิตามินอี ธาตุเหล็ก และสังกะสีด้วย โดยหากขาดสารอาหารเหล่านี้อาจจะทำให้ผมของคุณบาง แห้งเสีย หรือร่วงได้
การดูแลรักษาโครงสร้างของเส้นผม ให้คุณมีผมสุขภาพดีอยู่เสมอ
ควรใช้แชมพูที่มี pH สมดุล ประมาณ 4.5-5.5
เพื่อรักษาโครงสร้างของชั้นคิวติเคิลให้แข็งแรง เกล็ดผมเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ช่วยให้ผมเงางามและแข็งแรง ในทางตรงกันข้าม แชมพูที่มีฤทธิ์เป็นด่างหรือกรดเกินไปจะทำให้เกล็ดผมเปิดออก ทำให้ผมแห้งเสียและพันกันง่าย
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของโปรตีนและความชุ่มชื้น
เช่น เคราติน คอลลาเจน กรดไฮยาลูรอนิก หรือน้ำมันธรรมชาติต่าง ๆ เพื่อให้โปรตีนช่วยซ่อมแซมโครงสร้างที่เสียหาย ในขณะที่สารให้ความชุ่มชื้นจะช่วยรักษาความนุ่มและความยืดหยุ่นของเส้นผม
หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนและสารเคมีที่รุนแรง
การหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนและสารเคมีที่รุนแรง เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันความเสียหายของเส้นผม หากจำเป็นต้องใช้เครื่องจัดแต่งทรงผมที่มีความร้อน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อนทุกครั้ง และควรตั้งอุณหภูมิไม่ให้สูงเกินไป ส่วนสำหรับการทำสีผมหรือดัดผม ก็ควรเว้นระยะห่างให้เหมาะสมและใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมเข้มข้นหลังการทำเสมอ
ในยุคที่การดูแลสุขภาพเส้นผมไม่ใช่เพียงเรื่องของความสวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงคุณภาพชีวิตและความมั่นใจ การทำความเข้าใจโครงสร้างของเส้นผมจึงเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการดูแลเส้นผมอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่กำลังประสบปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน ที่ปัจจุบันพบได้มากขึ้นในประชากรทุกเพศทุกวัย ซึ่งการรักษาด้วยการปลูกผมเทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation) เป็นหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาผมบางที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยที่ Grow & Glow Clinic เราให้ความสำคัญกับการศึกษาส่วนประกอบของเส้นผมในทุกมิติ เพื่อวางแผนการรักษาด้วยเทคนิคปลูกผม FUT หรือเทคนิคอื่น ๆ ที่มั่นใจได้ว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้รับการรักษาแต่ละราย กรอกฟอร์มวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาออนไลน์กับคุณหมอ ฟรี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @clinicgrowandglow หรือโทร. 084-501-9989
ข้อมูลอ้างอิง
- Know Your Hair Structure And Anatomy. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.hairknowhow.com/know-your-hair-structure.