ไขข้อสงสัย ปลูกผมถาวรอยู่ได้นานไหม ทำไมปลูกผมแล้วผมร่วง?
การปลูกผมถาวร เป็นหนึ่งในวิธีรักษาผมบาง ศีรษะล้าน จากพันธุกรรมที่มีประสิทธิภาพมาก แต่ก็มีหลายคนที่ยังไม่กล้าทำ เพราะยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า ปลูกผมถาวรอยู่ได้นานไหม? ทำไมปลูกผมแล้วผมร่วง? เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น คลินิกปลูกผม Grow and Glow Hair Clinic จะพาไปหาคำตอบเอง
ปลูกผมถาวรอยู่ได้นานไหม
การปลูกผมถาวรเป็นวิธีการรักษาผมบาง ศีรษะล้าน ที่ได้ผลดี และเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่าผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน ความจริงแล้ว การปลูกผมถาวรสามารถให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้เป็นเวลานานหลายปี หรือแม้กระทั่งตลอดชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพของเส้นผมที่นำมาปลูก เทคนิคการปลูกผม และการดูแลรักษาหลังการปลูกผม
ทำไมปลูกผมแล้วผมร่วง
หลังจากการปลูกผม บางคนอาจพบว่าผมเริ่มร่วงออกมา ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลใจได้ แต่ความจริงแล้ว อาการผมร่วงหลังปลูกผมเป็นเรื่องปกติที่พบได้ทั่วไป เรียกว่า “ภาวะ Shock Loss” ซึ่งเกิดขึ้นได้กับผู้ที่เข้ารับการปลูกผมเกือบทุกคน
Shock Loss เป็นภาวะที่เกิดจากการที่รากผมได้รับการกระทบกระเทือนระหว่างกระบวนการปลูกผม ทำให้เส้นผมเข้าสู่ระยะพัก (Telogen phase) เร็วกว่าปกติ และหลุดร่วงออกมา อาการนี้มักเกิดขึ้นประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังการปลูกผม และอาจคงอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกังวลไป เพราะอาการ Shock Loss เป็นเพียงภาวะชั่วคราว เมื่อระยะเวลาผ่านไป จะหายได้เอง หลังจากนั้นเส้นผมจะเริ่มงอกใหม่ภายในระยะเวลา 3-4 เดือน โดยเส้นผมใหม่จะเริ่มงอกขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเห็นผลเต็มที่ภายใน 6-12 เดือนหลังการปลูกผม
เมื่อไหร่ควรกลับมาพบแพทย์ปลูกผม
แม้ว่าอาการผมร่วงหลังปลูกผมจะเป็นเรื่องปกติ แต่ก็มีบางกรณีที่ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม เช่น
- ผมร่วงต่อเนื่องเป็นเวลานานเกิน 4 เดือนหลังการปลูกผม
- ไม่เห็นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่เลยหลังผ่านไป 6 เดือน
- มีอาการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณที่ปลูกผม
- รู้สึกเจ็บปวดบริเวณที่ปลูกผมมากกว่าปกติ
ปัจจัยที่ส่งผลให้ปลูกผมแล้วผมร่วง
นอกจากภาวะ Shock Loss แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดการร่วงของเส้นผมหลังการปลูกผม ซึ่งเราควรทำความเข้าใจเพื่อป้องกันและดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง
เทคนิคการปลูกผม
เทคนิคการปลูกผมมีผลอย่างมากต่อความสำเร็จของการรักษา ปัจจุบันมีเทคนิคการปลูกผมหลายวิธี เช่น
- FUE (Follicular Unit Excision) : หรือที่เรียกว่า “ปลูกผม DHI” เป็นเทคนิคการปลูกผมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยจะใช้เครื่องมือพิเศษเก็บเซลล์รากผมจากบริเวณที่มีผมหนาแน่น (มักเป็นบริเวณท้ายทอย) แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ผมบาง หรือล้าน
- FUT (Follicular Unit Transplantation) : เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนผมบางในบริเวณกว้าง โดยแพทย์จะตัดแผ่นหนังศีรษะขนาดเล็กจากบริเวณด้านหลังศีรษะ แล้วนำมาแยกเป็นหน่วยรากผมย่อยๆ ทำให้ได้เซลล์รากผมจำนวนมากในครั้งเดียว ก่อนนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ
แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของแต่ละบุคคลจะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะผมร่วงหลังการปลูกผมได้
นอกจากนี้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการปลูกผมก็มีส่วนสำคัญมาก การเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูงจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนและเพิ่มโอกาสความสำเร็จของการปลูกผม
ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันมีผลต่อสุขภาพของเส้นผมอย่างมาก โดยปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดการร่วงของเส้นผมหลังการปลูกผม มีดังนี้
- ความเครียด : ความเครียดเรื้อรังสามารถกระตุ้นให้เกิดการร่วงของเส้นผมได้ การจัดการความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- การรับประทานอาหาร : การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม เช่น โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ อาจส่งผลให้เส้นผมอ่อนแอและร่วงง่าย
- การสูบบุหรี่ : นิโคตินในบุหรี่ส่งผลเสียต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
- การดื่มแอลกอฮอล์ : การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อการดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
- การนอนหลับพักผ่อน : การนอนหลับไม่เพียงพอหรือคุณภาพการนอนไม่ดีอาจส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
การดูแลตัวเองหลังปลูกผม
การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีหลังการปลูกผมเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะช่วยให้ผลการรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยแนะนำให้ดูแลตัวเองหลังปลูกผมดังนี้
- ดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือขยี้บริเวณที่ปลูกผม
- สระผมอย่างระมัดระวัง โดยให้ใช้แชมพูอ่อนๆ และน้ำอุ่น ไม่ขัดถูแรงๆ ถ้าไม่มั่นใจ ควรกลับมาให้เจ้าหน้าที่คลินิกสระผมให้
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ที่ทำให้เหงื่อออกมาก หรือมีการกระทบกระเทือนศีรษะ
- หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ปลูกผมสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง แนะนำให้สวมหมวก หรือใช้ร่มเมื่อออกแดด
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง ทั้งยาปฏิชีวะนะ และยาบรรเทาอาการปวด
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการปลูกผม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการหายของแผลและการเจริญเติบโตของเส้นผม
- ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม เช่น วิตามินบี วิตามินอี ธาตุเหล็ก และสังกะสี
- ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมในช่วงแรก เช่น เจล มูส หรือสเปรย์ เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองบริเวณที่ปลูกผม
ปลูกผมโดยแพทย์อเมริกันบอร์ด ที่คลินิกปลูกผมโกรว์แอนด์โกลว์
การปลูกผมถาวรสามารถให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นาน แต่อาจเกิดภาวะผมร่วงชั่วคราว (Shock Loss) หลังการปลูกผมในช่วงแรกๆ ได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ใครที่ปลูกผมแล้วผมร่วงจึงไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด นอกจากนี้ส่วนความสำเร็จของการปลูกผมยังขึ้นอยู่กับเทคนิคการปลูก ไลฟ์สไตล์ และการดูแลตัวเองหลังปลูกผมด้วย ผู้รับการปลูกผมจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และหากพบอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
สำหรับใครที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน แล้วกำลังมองหาคลินิกรักษาผมร่วง หรือคลินิกปลูกผมที่ได้มาตรฐานอยู่ สามารถนัดหมายเข้ามาพบแพทย์ที่ Grow and Glow Hair Clinic เพื่อตรวจประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้เลย เรามีบริการรักษาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น ปลูกผม DHI, ปลูกผม FUT, ปลูกไรผมหน้าผากผู้หญิง, บริการรักษาผมบางด้วยวิธีต่าง ๆ ดูแลโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษาผมร่วง ผ่านการรับรองจากสถาบันปลูกผมระดับโลก ใช้เทคนิคการปลูกผมที่ทันสมัย สามารถแก้ปัญหาผมบางได้อย่างน่าพึงพอใจ รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน!
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่
- ที่ตั้งคลินิก : 466/19 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
- Google Maps : https://maps.app.goo.gl/FngufQWeQNJ2ruvRA
- โทรศัพท์ : 084-501-9989
- Line Official Account : @clinicgrowandglow
- Facebook Page : GROW & GLOW Clinic ปลูกผมถาวรโดยแพทย์เฉพาะทาง
- Instagram :growandglowc