อาการขาดธาตุเหล็ก โลหิตจาง ต้นเหตุผมร่วงที่หลายคนไม่รู้ตัว !
หากคุณกำลังประสบปัญหาผมร่วง ผมบาง บอกได้เลยว่านั่นอาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่สะท้อนถึงสุขภาพภายในร่างกายอย่างชัดเจน ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่หลายคนอาจไม่รู้และมองข้ามไป คือ “ภาวะขาดธาตุเหล็ก” หรือโลหิตจาง ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ รวมถึงการเจริญเติบโตของเส้นผมอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าวอย่างไม่ทราบสาเหตุ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการขาดธาตุเหล็กจนผมร่วงไปพร้อมกัน เพื่อช่วยให้สามารถวางแผนการดูแลรักษาได้อย่างตรงจุดและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น !
ธาตุเหล็ก โลหิตจาง และปัญหาผมร่วง เกี่ยวข้องกันอย่างไร ?
ธาตุเหล็ก (Iron) เป็นแร่ธาตุจำเป็นที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนจากปอดไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย รวมถึงเซลล์รากผมบริเวณหนังศีรษะ เมื่อร่างกายได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ปริมาณเม็ดเลือดแดงลดลง จนเกิดภาวะที่เรียกว่า “โลหิตจาง” (Anemia) และทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงรากผมลดลงตามไปด้วย
ผลที่ตามมา คือ เซลล์รากผมขาดออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็น ทำให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมหยุดชะงัก เส้นผมที่มีอยู่จะอ่อนแอ หลุดร่วงง่าย ส่วนเส้นใหม่ก็ขึ้นช้าลง บางรายอาจสังเกตได้ว่าเมื่อโลหิตจางจะมีอาการผมร่วงมากผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณกลางศีรษะ หรือเส้นผมโดยรวมบางลงอย่างชัดเจน
ปัจจุบันพบว่า อาการขาดธาตุเหล็กแล้วผมร่วง สามารถพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยทำงาน ผู้ที่มีประจำเดือนมาก ผู้ที่ตั้งครรภ์ รวมถึงกลุ่มที่รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่หรือรับประทานมังสวิรัติ
อาการขาดธาตุเหล็กเป็นแบบไหน ? เผยสัญญาณเตือนที่ต้องสังเกตตัวเอง
ภาวะขาดธาตุเหล็กและโลหิตจาง ในระยะแรกอาจจะไม่ได้แสดงอาการชัดเจน แต่เมื่อเวลาผ่านไปและระดับธาตุเหล็กในร่างกายลดต่ำลง สัญญาณต่าง ๆ เหล่านี้ก็มักจะปรากฏขึ้นและควรได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว หากพบอาการเหล่านี้หลายข้อร่วมกัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์ระดับธาตุเหล็กในเลือดอย่างละเอียดทันที
- ผมร่วงมากผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณกลางศีรษะ สังเกตได้จากเส้นผมหลุดติดหมอน หรือขณะสระผมมีเส้นผมหลุดออกจำนวนมาก
- เส้นผมบางลง เส้นเล็ก อ่อนแอ หักง่าย เมื่อสัมผัสจะรู้สึกถึงความเบาบางของเส้นผมและปลายผมแตกหัก
- เล็บเปราะ ฉีกขาดง่าย เล็บบางลง ไม่แข็งแรง มีลักษณะเป็นร่องหรือหยัก
- ผิวหนังแห้งซีด เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย แม้พักผ่อนเพียงพอก็ยังรู้สึกไม่สดชื่น
- เวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลมบ่อย เมื่อเปลี่ยนอิริยาบถรวดเร็ว หรืออยู่ในที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
- หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ โดยเฉพาะเวลาทำกิจกรรมหรือออกแรง
มีอาการขาดธาตุเหล็กจนผมร่วง สามารถดูแลตัวเองได้อย่างไร ?
การรับมือกับปัญหาผมร่วงที่เกิดจากภาวะขาดธาตุเหล็ก ควรเริ่มจากการหาสาเหตุและปรับสมดุลของร่างกายควบคู่ไปกับการดูแลเส้นผม ดังนี้
ตรวจวิเคราะห์เลือด
การเจาะเลือดเพื่อตรวจระดับ Serum Ferritin (ตัวบ่งชี้ปริมาณธาตุเหล็กสะสมในร่างกาย) และค่า Hemoglobin (ค่าบอกปริมาณเม็ดเลือดแดง) เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการประเมินภาวะขาดธาตุเหล็กและโลหิตจาง เพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาได้ถูกต้อง
รับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็ก
ในกรณีที่ตรวจพบว่าระดับธาตุเหล็กต่ำ แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็กร่วมกับวิตามินซี เพราะวิตามินซีจะช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในลำไส้ได้ดียิ่งขึ้น โดยควรรับประทานอย่างต่อเนื่องและที่สำคัญคือต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะอาหารเสริมธาตุเหล็กอาจทำให้คลื่นไส้ ท้องผูก หรือถ่ายดำได้
ปรับพฤติกรรมการบริโภค
เน้นการรับประทานอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก เช่น
- ตับหมู ตับไก่ ซึ่งมีธาตุเหล็กสูงมากเมื่อเทียบกับอาหารชนิดอื่น ๆ
- เนื้อแดงไม่ติดมัน เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว
- ผักใบเขียวเข้ม เช่น ตำลึง คะน้า ผักโขม
- ไข่แดง มีทั้งธาตุเหล็กและโปรตีน
- ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต
- ควรรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ ควบคู่กับอาหารมื้อหลัก
- ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ลดการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น ชา กาแฟ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับมื้ออาหาร เพราะแทนนินและโพลีฟีนอลในเครื่องดื่มเหล่านี้จะไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก
ดูแลสุขภาพเส้นผมควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพร่างกาย
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะสมกับสภาพหนังศีรษะและลดการหลุดร่วง เช่น แชมพูสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารซัลเฟต พาราเบน หรือน้ำหอม และใช้เซรั่มบำรุงรากผม เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะ ให้ผมงอกใหม่มีสุขภาพดี รวมถึงลดการเป่าไดร์หรือหนีบผมด้วยความร้อนจัด
ในกรณีที่มีอาการขาดธาตุเหล็กจนผมร่วงจำนวนมาก หรือสาเหตุอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เกิดผมบางหรือศีรษะล้านในระดับที่ไม่สามารถฟื้นฟูได้ด้วยการบำรุงเพียงอย่างเดียว สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาอย่างถูกต้องและปลอดภัยได้ที่ Grow & Glow Clinic คลินิกปลูกผม DHI รวมไปถึงเทคนิคอื่น ๆ แบบครอบคลุม ภายใต้การดูแลของแพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ (หมอเบนซ์) แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปลูกผมที่ได้รับการรับรองจากสถาบันปลูกผมระดับนานาชาติ และผ่านการทำงานในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ จึงมั่นใจได้ถึงมาตรฐานและผลลัพธ์ที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอน กรอกฟอร์มวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาออนไลน์กับคุณหมอ ฟรี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @clinicgrowandglow หรือโทร. 084-501-9989
ข้อมูลอ้างอิง
- 1. Can an iron deficiency cause hair loss?. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.medicalnewstoday.com/articles/321668.
