PRP Stem cell คืออะไร วิธีไหนดีกว่าในการปลูกผม

เขียนโดย แพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ - ธ.ค. 26, 2023

prp stem cell คืออะไร หลายคนไม่รู้จักการปลูกผมด้วยวิธีนี้ และยังสับสนระหว่างการปลูกผมด้วย stem cell ว่าแตกต่างกันอย่างไร ในปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์ความงามก้าวหน้ามาก ซึ่ง prp stem cell คือการรักษาปัญหาเรื่องผม เช่น ผมร่วงผิดปกติ, ศีรษะล้านเป็นหย่อม, ผมบาง, รวมทั้งการปลูกผม แต่จะแตกต่างจาก stem cell แบบเดิมอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้ โดยทั้งสองวิธีนี้ถือว่าเป็นการรักษาปัญหาผมร่วงด้วยนวัตกรรมการแพทย์ ซึ่งต้องอาศัยทั้งความเชี่ยวชาญของแพทย์, อุปกรณ์ที่ทันสมัย หากคุณสนใจเรื่องของการรักษาปัญหาผมร่วง, หัวล้านไข่ดาว, หัวล้านเป็นหย่อม ๆ เรามีข้อมูลน่าสนใจของการรักษาปัญหาเส้นผม และหนังศีรษะด้วยวิธี prp stem cell คืออะไร มาฝากกัน เพื่อจะได้เข้าใจวิธีการรักษาผมร่วงนี้อย่างถูกต้อง

PRP กับ Stem cell แตกต่างกันอย่างไร

PRP กับ Stem cell แตกต่างกันอย่างไร - grow and glow

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่า prp stem cell คืออะไร เราจะแนะนำให้เข้าใจง่าย ๆ ในเบื้องต้น เริ่มจาก

  1. PRP คือ Platelet Rich Plasma หรือเกล็ดเลือดเข้มข้นที่มี growth factor ที่จำเป็นกับการสร้างเส้นผม บำรุงรากผม และเลือดที่ใช้ในการรักษา คือ เลือดของผู้ที่เข้ารับการรักษา เอง โดยจะมีการเจาะเลือดมาเข้ากระบวนการทางการแพทย์ ก่อนนำมาฉีดกลับเข้าสู่ร่างกาย วิธีนี้ไม่มีอันตราย และไม่มีความเสี่ยงร้ายแรงใด ๆ ระยะเวลาที่ใช้ในการเห็นผลลัพธ์ก็ค่อนข้างเร็วประมาณ 3-6 เดือน (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย) ซึ่งการทำ PRP รักษาผมร่วง จะเป็นวิธีที่แพทย์แนะนำมากที่สุดด้วย เพราะมีความปลอดภัยสูง
  2. stem cell คือการใช้ stem cell จากรากผมมาสกัด และผ่านกระบวนการทางการแพทย์ แล้วนำกลับไปฉีดให้กับผู้ที่ต้องการรักษา ซึ่งวิธีนี้ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีในการรักษา และไม่มีความเสี่ยงที่อันตรายเช่นกัน เพราะจะเป็นการนำ Stem Cell จากรากผม ของผู้ที่ต้องการเข้ารับการรักษานั่นเอง

ตอนนี้ก็รู้จักกับ PRP Stem Cell คืออะไร แตกต่างจาก Stem Cell อย่างไรกันแล้ว ซึ่งทั้งสองแบบเป็นวิธีที่เหมาะกับการรักษาอาการผมร่วง, ผมบาง, หัวล้าน และปัญหาเส้นผมในหลายรูปแบบ ทั้งนี้การรักษาจะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น แม้ว่าทั้งสองวิธีนี้จะมีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงต่ำ ได้ผลลัพธ์ที่คงทนถาวร แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลหลังการรักษาของผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วย รวมทั้งเรื่องปัจจัยด้านสุขภาพกาย การพักผ่อน การรับประทานอาหาร ก็มีผลกับปัญหาของเส้นผม และหนังศีรษะด้วยเช่นกัน

PRP และ Stem cell มีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง

เมื่อรู้จักกันไปแล้วว่า PRP Stem Cell คืออะไร ตอนนี้มาทราบถึงข้อดี ข้อเสียของทั้งสองวิธีกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจสำหรับผู้ที่มีปัญหาหัวล้าน ผมบาง ผมร่วงเป็นหย่อม จะได้เลือกการรักษาที่เหมาะกับปัญหาของตนเองมากที่สุด

ข้อดีของการทำ PRP

ข้อเสียการทำ PRP

แม้ว่าการทำ PRP Stem Cell คือ การแก้ปัญหาเส้นผมที่ไม่มีข้อเสีย แต่มีข้อจำกัดในการทำ คือ

ข้อดีของการทำ stem cell

วิธีนี้จะมีข้อดีที่เด่นกว่าการทำ PRP Stem Cell คือ สามารถให้ผลลัพธ์กระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผมได้ โดยไม่ต้องทำจำนวนบ่อยครั้งเหมือน PRP ในการทำแต่ละครั้งสามารถทิ้งช่วงระยะเวลาให้นานถึง 6 เดือนแล้วค่อยทำซ้ำ ให้ผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจนและถาวร

ข้อเสียของการทำ stem cell

นี่คือข้อดี ข้อเสียของ PRP Stem Cell  และ Stem Cell สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องเส้นผม ไม่ว่าจะเกิดจากอาการไหน และอาจยังไม่มั่นใจว่าควรรักษาด้วยวิธีไหนดี แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษา เพื่อที่จะได้เลือกวิธีรักษาให้ตรงกับปัญหา ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามต้องการ และคงอยู่ถาวร โดยไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาบ่อย

วิธีปลูกผมแบบไหนดีที่สุด

วิธีปลูกผมแบบไหนดีที่สุด - grow and glow

เราเชื่อว่าหลายคนอยากรู้แน่นอนว่าการรักษาปัญหาเส้นผมด้วย PRP Stem Cell คือวิธีที่ดีที่สุดจริงไหม หรือควรเลือกวิธีรักษาแบบไหนดี ก่อนอื่นเราขอให้เข้าใจก่อนว่า การรักษาปัญหาหัวล้าน, ผมร่วง, ผมบาง, หรือต้องการปลูกผมด้วยวิธีการต่าง ๆ ต้องดูปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพของผู้ที่เข้ารับการรักษา, ปัญหาของเส้นผมที่ประสบอยู่, ความแข็งแรงของเส้นผมและหนังศีรษะ รวมทั้งความพร้อมในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้วย ซึ่งการทำ PRP Stem Cell คือทางเลือกที่แพทย์แนะนำมากที่สุด เพราะปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อยมาก ค่าใช้จ่ายในการทำที่ย่อมเยากว่า ยกเว้นในรายที่มีปัญหาหรือข้อจำกัดที่ได้แนะนำไว้ แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองวิธีสามารถทำคู่กันได้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะทั้งสองวิธีแม้จะมีขั้นตอนการทำที่คล้ายกัน แต่ก็ช่วยปลูกผมในกลไกที่ต่างกัน การทำร่วมกันจะเป็นการช่วยให้เซลล์รากผมแข็งแรง และกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผมร่วมด้วย พร้อมลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้ด้วยนั่นเอง

สรุปบทความ

จากที่แนะนำในเรื่องของPRP Stem Cell คืออะไร เป็นการรักษาปัญหาเส้นผม และศีรษะล้านด้วยวิธีทางการแพทย์แบบไหนแล้ว หากคุณมีปัญหานี้แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่ชำนาญในการรักษา เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งต้องเลือกสถานพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย เพราะการรักษาปัญหาเส้นผมต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทางด้วย แต่ไม่ว่าคุณจะเลือก PRP Stem Cell หรือ Stem Cell หรือร่วมกันทั้งสองวิธี ก็สามารถทำคู่กันได้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและคงอยู่ได้ถาวร ที่สำคัญอีกเรื่อง คือต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดด้วย รวมทั้งต้องให้เวลาในการรักษา เพราะทั้งสองวิธีเป็นการรักษาแบบธรรมชาติ กระตุ้นให้เซลล์รากผมเจริญเติบโตตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย จึงไม่ได้มีผลทำให้เส้นผมงอกเร็วขึ้นโดยตรงนั่นเอง


ปรึกษาออนไลน์ฟรีกับคุณหมอ