4 สาเหตุสำคัญที่ทำให้ปลูกผมไม่ขึ้น พร้อมวิธีแก้ไข
ถึงแม้การปลูกผมจะเป็นกระบวนการแก้ไขปัญหาศีรษะล้านและผมบางซึ่งได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง แต่ก็มีผู้ที่เข้ารับการปลูกผมหลายคนพบว่าผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรืออธิบายสั้น ๆ คือ “ปลูกผมไม่ขึ้น” เนื่องจากเส้นผมใหม่ไม่เจริญเติบโตตามปกติหลังจากการปลูกผม อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้มีสาเหตุ และถ้าเราทำความเข้าใจว่าการปลูกผมไม่ขึ้นเกิดจากอะไรบ้าง ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์การปลูกผมเป็นไปตามที่คาดหวัง
ความไม่สมบูรณ์ของการปลูกผม (Surgical Factors)
แม้ว่าการปลูกผมจะเป็นศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว แต่ความผิดพลาดในขั้นตอนการผ่าตัดอาจส่งผลให้ปลูกผมไม่ขึ้นตามที่คาดหวัง
- การดึงรากผมที่ไม่สมบูรณ์ (Graft Survival Rate ต่ำ)
อัตราการรอดชีวิตของกราฟต์ (Graft Survival Rate) เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในความสำเร็จของการปลูกผม หากแพทย์ดึงรากผมได้ไม่สมบูรณ์ หรือกราฟต์ได้รับความเสียหายระหว่างการเก็บรักษา จะส่งผลให้กราฟต์มีอัตราการรอดชีวิตต่ำ และผมใหม่ไม่งอกตามที่ควรจะเป็น - การจัดวางกราฟต์ที่ไม่เหมาะสม
การวางตำแหน่งและทิศทางของกราฟต์มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากวางไม่ถูกต้องตามธรรมชาติของเส้นผม หรือวางในมุมที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ผมที่งอกขึ้นมาดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือในบางกรณีอาจทำให้กราฟต์ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ - การใช้เครื่องมือที่ไม่เหมาะสม
การใช้เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น เข็มหรือใบมีดที่ไม่เหมาะกับลักษณะเส้นผมของผู้เข้ารับการรักษา อาจส่งผลให้รูขุมขนเสียหาย ทำให้รากผมที่ปลูกไม่เติบโต และปลูกผมไม่ขึ้นในท้ายที่สุด
ปัจจัยด้านสุขภาพของผู้เข้ารับการปลูกผม
สุขภาพของผู้เข้ารับการปลูกผมมีผลต่อการเจริญเติบโตของรากผมโดยตรง ต่อให้ขั้นตอนการปลูกทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าสภาพร่างกายไม่พร้อม ก็อาจทำให้ปลูกผมไม่ขึ้นได้เช่นกัน
- ภาวะหนังศีรษะที่ไม่แข็งแรง
หนังศีรษะที่มีปัญหา เช่น มีรอยแผลเป็น ภาวะติดเชื้อ หรือโรคผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) และโรคผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema) จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของรากผม - โรคประจำตัว
โรคบางชนิด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง สามารถส่งผลต่อการหายของแผลและการเจริญเติบโตของกราฟต์ นอกจากนี้ ยาบางประเภทที่ผู้เข้ารับการรักษาใช้อยู่อาจมีผลต่อการงอกของเส้นผมด้วย - ภาวะขาดสารอาหาร
การขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก สังกะสี และวิตามินดี อาจทำให้รากผมที่ปลูกไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ นำไปสู่การปลูกผมไม่ขึ้นในท้ายที่สุด
การดูแลหลังการปลูกผมที่ไม่เหมาะสม
การดูแลหลังการปลูกผม ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการปลูกผม ดังนั้น หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ปัญหาปลูกผมไม่ขึ้นก็มีโอกาสเกิดขึ้นเช่นกัน
- การเกาและดึงรากผม
หลังการปลูกผม รากผมใหม่จะยังบอบบาง หากเกาศีรษะหรือเผลอไปดึงกราฟต์ อาจทำให้รากผมหลุดและส่งผลให้กราฟต์ไม่เจริญเติบโต - การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม
การใช้แชมพูหรือผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะที่มีสารเคมีรุนแรง มีโอกาสที่ทำให้หนังศีรษะระคายเคืองและขัดขวางการเจริญเติบโตของรากผม - การออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่หนักเกินไป
การออกกำลังกายหนักจนทำให้เกิดเหงื่อหรือความดันสูงบริเวณหนังศีรษะในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังการปลูกผม อาจทำให้กราฟต์หลุดและทำให้ปลูกผมไม่ขึ้น
ปัญหาด้านพันธุกรรม
บางครั้ง ปัญหาปลูกผมไม่ขึ้นก็อาจไม่ได้เกิดจากขั้นตอนการปลูกผมหรือการดูแลหลังผ่าตัด แต่เกิดจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น พันธุกรรม ดังนี้
- ภาวะศีรษะล้านแบบพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia)
สำหรับผู้ที่มีภาวะศีรษะล้านแบบพันธุกรรม หลังจากที่ปลูกผมแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่เส้นผมในจุดอื่นจะยังหลุดร่วงได้ด้วยผลกระทบจากฮอร์โมน DHT อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับการรักษาสามารถรับประทานยาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผมร่วงเพิ่มเติมได้ - ปัญหาการหดตัวของรูขุมขน (Miniaturization)
รูขุมขนที่เล็กลงจากปัจจัยพันธุกรรมหรือปัจจัยอื่น ๆ อาจทำให้เส้นผมที่ปลูกไม่สามารถเติบโตได้เต็มที่
วิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาการปลูกผมไม่ขึ้น
ถึงแม้จะมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการปลูกผม อย่างไรก็ตาม เราสามารถลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้ด้วยการวางแผนและปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม ดังนี้
- เลือกคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์
การเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงและมีผลงานที่น่าเชื่อถือ เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จในการปลูกผม ดังนั้น ควรศึกษาข้อมูล อ่านรีวิว และดูผลงานของแพทย์ก่อนตัดสินใจ - ตรวจสุขภาพก่อนการปลูกผม
การตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัวหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ จะช่วยให้การวางแผนการปลูกผมเหมาะสมยิ่งขึ้น - ดูแลหนังศีรษะอย่างถูกต้อง
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่แพทย์แนะนำและหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจกระทบต่อหนังศีรษะ เช่น การเกาหรือดึงรากผม - ใช้ยากระตุ้นการเจริญเติบโตของผมอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการปลูกผมแล้ว การใช้ยากระตุ้นการเจริญเติบโตรากผม เช่น ไมนอกซิดิล (Minoxidil) หรือไฟแนสเตอร์ไรด์ (Finasteride) ยังคงเป็นสิ่งที่ผู้เข้ารับการรักษาต้องใช้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยรักษาผมธรรมชาติ และลดโอกาสที่จะต้องปลูกผมเพิ่มเติมในอนาคต - ปรึกษาแพทย์ทันทีหากมีปัญหา
ถ้าพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น หนังศีรษะแดง บวม หรือมีปัญหาปลูกผมไม่ขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ปัญหาปลูกผมไม่ขึ้นเกิดจากหลากหลายปัจจัย และถึงแม้บางข้อจะเป็นปัจจัยธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็มีหลายปัจจัยที่สามารถแก้ไขได้ เพียงเลือกใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีอุปกรณ์ทันสมัย และแพทย์เฉพาะทาง ดังนั้น สำหรับผู้ที่กำลังมีความกังวลใจเกี่ยวกับผมบาง หนังศีรษะล้าน สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ Grow & Glow Clinic คลินิกปลูกผมโดยแพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ (หมอเบนซ์) ที่จบการศึกษาเฉพาะทางจาก ISHRS และได้รับวุฒิบัตร American Board ด้านการปลูกผมระดับโลก พร้อมให้บริการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE และ FUT ในราคาสมเหตุสมผล มั่นใจได้ในทุกขั้นตอนด้วยการประเมินอย่างตรงจุด เทคโนโลยีและอุปกรณ์ทันสมัย ดูแลโดยทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 17 ปี ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 5,000 เคส กรอกฟอร์มวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาออนไลน์กับคุณหมอ ฟรี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @clinicgrowandglow หรือโทร. 084-501-9989
ข้อมูลอ้างอิง
- Hair Transplants: What to Expect. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/hair-transplants