หนังศีรษะแห้งคืออะไร อันตรายไหม ? รู้ครบที่นี่

webadmin - ม.ค. 31, 2025

‘หนังศีรษะแห้ง (Dry Scalp)’ อาจดูเป็นปัญหาเล็กน้อยที่เกิดขึ้นชั่วคราว แต่จริง ๆ แล้วสามารถนำไปสู่อาการอื่น ๆ ที่รุนแรงขึ้นได้ เช่น อาการผมบางและผมร่วง หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ปัญหานี้จึงไม่ใช่เรื่องที่ควรละเลย ดังนั้น บทความนี้จึงจะพาไปรู้จักกับปัญหาหนังศีรษะแห้งในเชิงลึก ตั้งแต่สาเหตุ อาการ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงวิธีป้องกันและดูแลตัวเอง เพื่อแก้อาการผมบางและผมร่วงก่อนจะลุกลามจนรักษาได้ยาก

หนังศีรษะลอกคล้ายรังแค คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากหนังศีรษะแห้ง

หนังศีรษะแห้งคืออะไร ?

หนังศีรษะแห้งจนลอกเป็นภาวะที่เกิดจากผิวหนังบนศีรษะขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคือง คัน หรือหนังศีรษะลอกคล้ายรังแค ภาวะนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อราหรือการติดเชื้อ แต่ส่วนใหญ่มักมาจากปัจจัยภายในร่างกายและสิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยหากไม่ได้รับการดูแลก็อาจลุกลามทำให้หนังศีรษะไม่แข็งแรงจนผมร่วงผมบางได้

สาเหตุของหนังศีรษะแห้ง

อาการของหนังศีรษะแห้ง

ผลกระทบระยะยาว

ถ้าปัญหาหนังศีรษะแห้งไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาการอาจลุกลามและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเส้นผมและหนังศีรษะในระยะยาว ดังนี้

ผมหลุดร่วงติดหวี คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากหนังศีรษะแห้ง

วิธีดูแลและป้องกันหนังศีรษะแห้ง

การดูแลและป้องกันปัญหาหนังศีรษะแห้งเริ่มต้นได้ง่าย ๆ จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม รวมถึงการปรับปรุงด้านโภชนาการและการดูแลสุขภาพส่วนตัว ดังนี้

  1. เลือกแชมพูที่เหมาะสม : เลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากสารซัลเฟตและแอลกอฮอล์ เนื่องจากสารเคมีเหล่านี้ทำให้หนังศีรษะแห้งและระคายเคือง ส่วนถ้าถามว่าหนังศีรษะแห้งผมร่วงควรใช้อะไรดี ก็แนะนำให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ เช่น น้ำมันอาร์แกน น้ำมันมะพร้าว หรือสารสกัดจากว่านหางจระเข้
  2. หลีกเลี่ยงการสระผมบ่อยเกินไป : การสระผมที่บ่อยเกินไป เช่น ทุกวันหรือวันละหลายครั้ง อาจทำให้น้ำมันธรรมชาติบนหนังศีรษะถูกล้างออกจนหมด ควรลดความถี่เหลือ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือเลือกใช้แชมพูแบบ Dry Shampoo เพื่อลดความมันชั่วคราว
  3. บำรุงด้วยซีรัมหรือมาสก์บำรุงหนังศีรษะ : การใช้ซีรัมหรือมาสก์บำรุงหนังศีรษะที่มีส่วนผสมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอนิก น้ำมันโจโจบา หรือโปรวิตามินบี 5 สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพหนังศีรษะได้ดี
  4. ปรับพฤติกรรมการใช้ความร้อน : ลดการใช้ไดร์เป่าผมที่อุณหภูมิสูง รวมถึงการใช้เครื่องหนีบหรือม้วนผม เพราะความร้อนจะทำให้หนังศีรษะและเส้นผมสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย หากจำเป็นควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อนทุกครั้ง
  5. เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : อาหารที่มีกรดไขมันโอเมกา 3 เช่น ปลาแซลมอน ถั่ววอลนัต หรือเมล็ดแฟลกซ์ ช่วยบำรุงสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมได้ดี รวมถึงการเพิ่มวิตามินอีจากอะโวคาโดและน้ำมันมะกอกในมื้ออาหาร
  6. ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งรวมถึงหนังศีรษะด้วย 

ถ้าคุณกำลังกังวลใจกับปัญหาหนังศีรษะแห้ง รวมถึงประสบปัญหาผมร่วงผมบางที่อาจส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเอง สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางได้ที่ Grow & Glow Clinic คลินิกปลูกผมและคลินิกรักษาผมบางโดยแพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ (หมอเบนซ์) ที่สำเร็จการศึกษาเฉพาะทางจาก ISHRS และได้รับวุฒิบัตร American Board ด้านการศัลยกรรมปลูกผมระดับโลก มั่นใจได้ในทุกขั้นตอนด้วยการประเมินอย่างตรงจุด พร้อมเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทันสมัย ดูแลโดยทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 17 ปี ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 5,000 เคส กรอกแบบฟอร์มวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาออนไลน์กับคุณหมอ ฟรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @clinicgrowandglow หรือโทร. 084-501-9989

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Remedies for Dry Scalp. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 จาก https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/remedies-for-dry-scalp
  2. The difference between dandruff and a dry scalp. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 จาก https://www.medicalnewstoday.com/articles/320988

ปรึกษาออนไลน์ฟรีกับคุณหมอ