ไขข้อสงสัย ฮอร์โมน DHT คืออะไร ทำให้ผมร่วง ผมบางได้อย่างไร ?

แพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ (หมอเบนซ์) - ธ.ค. 13, 2023

Table of Contents

“ผมร่วง ผมบาง” คือปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้ใครหลายคน โดยเฉพาะในผู้ชาย ซึ่งหนึ่งใน “ตัวการ” สำคัญที่อยู่เบื้องหลังปัญหานี้ คือ “ฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone)” แม้ชื่อนี้อาจฟังดูไม่คุ้นหู แต่ DHT มีบทบาทสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพเส้นผมของคุณอย่างคาดไม่ถึง

Grow & Glow Clinic เข้าใจดีว่าคุณอาจกำลังเผชิญกับภาวะผมร่วงที่ทำให้ผมบางลง และสงสัยว่าฮอร์โมนนี้เกี่ยวข้องอย่างไร วันนี้เราจะพาไปรู้ว่าฮอร์โมน DHT เกิดจากอะไร ทำหน้าที่อย่างไรในร่างกาย อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อให้เข้าใจต้นตอของปัญหาและเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างถูกวิธี

ฮอร์โมน DHT คืออะไร?

ฮอร์โมน DHT หรือดีไฮโดรเทสโทสเทอโรน (Dihydrotestosterone) เป็นฮอร์โมนเพศชายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ผ่านกระบวนการทำงานของเอนไซม์ 5-Alpha Reductase (5-AR) ฮอร์โมนนี้มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการด้านเพศชาย รวมถึงมีส่วนเชื่อมโยงกับการเจริญเติบโตของเส้นผมและขนตามร่างกาย 

หน้าที่ของฮอร์โมน DHT

หน้าที่ของฮอร์โมน DHT

ฮอร์โมน DHT ตัวการที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วงผมบาง

แม้ DHT จะเป็นฮอร์โมนที่ช่วยกระตุ้นการสร้างขนตามร่างกาย แต่สำหรับคนที่มีพันธุกรรมศีรษะล้าน ฮอร์โมนนี้อาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เส้นผมร่วงบางลง โดยกลไกดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อฮอร์โมน DHT จับกับตัวรับแอนโดรเจน (Androgen Receptors) ที่บริเวณรากผม ส่งผลให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมสั้นลงเรื่อย ๆ เส้นผมที่งอกใหม่จึงมีขนาดเล็กลง บางลง และในที่สุดรูขุมขนอาจหยุดการผลิตเส้นผมใหม่จนเกิดภาวะศีรษะล้านถาวร

ใครบ้างที่มีแนวโน้มผมร่วงจาก DHT ?

ปริมาณฮอร์โมน DHT เพียงอย่างเดียวไม่ได้เป็นตัวชี้ชัดว่าคุณจะผมร่วงหรือไม่ แต่คือความไวของรูขุมขนต่อฮอร์โมนนี้เป็นปัจจัยหลักที่กำหนดว่าใครมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น โดยกลุ่มต่อไปนี้คือผู้ที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจาก DHT มากกว่าปกติ 

การรู้ว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ช่วยให้คุณเฝ้าระวังสัญญาณผมร่วงตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และเข้ารับการประเมินกับแพทย์เฉพาะทางเพื่อวางแผนการดูแลหรือรักษาที่เหมาะสมก่อนที่ผมจะบางถาวร

วิธีลดปริมาณฮอร์โมน DHT อย่างปลอดภัยและได้ผล

เมื่อร่างกายมีฮอร์โมน DHT มากเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาศีรษะล้าน เราสามารถป้องกันปัญหาดังกล่าวได้โดยการลดปริมาณของฮอร์โมนชนิดนี้ลง ซึ่งก็มี 3 วิธีลดฮอร์โมน DHT อย่างปลอดภัย ดังนี้ 

1. ปรับพฤติกรรมและโภชนาการ

พฤติกรรมการใช้ชีวิตและอาหารบางชนิดอาจส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมน DHT ในร่างกาย แม้จะไม่สามารถหยุดกระบวนการสร้างฮอร์โมนนี้ได้โดยตรง แต่การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมก็ช่วยชะลอการเกิดผมร่วงได้

2. การใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์

การใช้ยาลดฮอร์โมน DHT ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากยากลุ่มนี้ทำงานโดยตรงกับเอนไซม์หรือฮอร์โมน และอาจมีผลข้างเคียง

3.การดูแลเส้นผมจากภายนอก

การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะสม ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดฮอร์โมน DHT รวมถึงลดการอุดตันของรูขุมขนได้ โดยคำแนะนำในการเลือกมีดังนี้

สรุปเกี่ยวกับฮอร์โมน DHT

วางแผนจัดการปัญหาผมร่วงจาก DHT กับ Grow & Glow Clinic

หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือมีประวัติครอบครัวศีรษะล้าน และกังวลว่าฮอร์โมน DHT คือสาเหตุหลัก การได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปถึงขั้นศีรษะล้านถาวร

ที่ Grow & Glow Clinic เรามีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเส้นผมและการปลูกผม พร้อมประสบการณ์ตรงในการรักษาผมร่วงจากฮอร์โมน DHT ตั้งแต่การประเมินสภาพรากผม ตรวจวิเคราะห์ฮอร์โมน วางแผนการแก้ปัญหาผมร่วงเฉพาะบุคคล ไปจนถึงปลูกผมถาวร โดย Grow & Glow Clinic เป็นคลินิกปลูกผมที่มีบริการทั้งเทคนิค FUE และ FUT ภายใต้การดูแลโดยแพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ (หมอเบนซ์) ผู้ได้รับวุฒิบัตร ISHRS Graduate Fellow in Hair Restoration Surgery และ American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) ติดต่อสอบถามได้เลยที่ LINE: @clinicgrowandglow หรือโทร. 084-501-9989

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฮอร์โมน DHT และปัญหาผมร่วง

ฮอร์โมน DHT ต่างจากฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนยังไง ?

ฮอร์โมน DHT คือฮอร์โมนที่เกิดจากการเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนผ่านเอนไซม์ 5-Alpha Reductase ทำให้มีฤทธิ์กระตุ้นตัวรับแอนโดรเจนแรงกว่าเทสโทสเทอโรน และมีบทบาทชัดเจนต่อการพัฒนาลักษณะทางเพศชาย แต่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เส้นผมร่วงบางลงในบางคน

ทำไมบางคนถึงไวต่อ DHT มากกว่าคนอื่น ?

ความไวของรูขุมขนต่อ DHT ถูกกำหนดโดยพันธุกรรม หากมีประวัติศีรษะล้านในครอบครัว ความเสี่ยงที่รูขุมขนจะตอบสนองต่อ DHT มากผิดปกติและทำให้ผมร่วงเร็วขึ้นก็สูงกว่าคนทั่วไป

ผู้หญิงสามารถมีปัญหาผมร่วงจาก DHT ได้หรือไม่?

ได้ ถึงแม้ผู้หญิงจะมีระดับฮอร์โมน DHT ต่ำกว่าในผู้ชาย แต่บางภาวะ เช่น กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) หรือความไม่สมดุลของฮอร์โมน อาจเพิ่มระดับ DHT และทำให้ผมร่วงบางลง โดยเฉพาะบริเวณกลางศีรษะ

มีวิธีธรรมชาติลด DHT ได้ไหม ?

การเลือกรับประทานอาหารที่มีสังกะสี ไลโคพีน หรือสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เมล็ดฟักทอง มะเขือเทศ ชาเขียว อาจช่วยยับยั้งการเปลี่ยนฮอร์โมนเป็น DHT ได้บางส่วน แต่ผลลัพธ์แตกต่างกันไปในแต่ละคน และมักไม่เพียงพอหากผมร่วงรุนแรง

ยาลด DHT ปลอดภัยหรือไม่ และมีผลข้างเคียงไหม ?

ยากลุ่ม Finasteride หรือ Dutasteride ได้รับการรับรองทางการแพทย์ว่าช่วยลด DHT ได้จริง แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะอาจมีผลข้างเคียง เช่น ความต้องการทางเพศลดลง ปัญหาการหลั่ง หรืออารมณ์แปรปรวนในบางราย

จะรู้ได้อย่างไรว่าผมร่วงเกิดจาก DHT ?

สัญญาณบ่งบอก เช่น เส้นผมค่อย ๆ บางลงโดยเฉพาะบริเวณขมับและกลางศีรษะ หรือมีประวัติครอบครัวศีรษะล้าน แนะนำให้พบแพทย์ชำนาญการด้านเส้นผมและการปลูกผม เพื่อตรวจวิเคราะห์สภาพรากผมและระดับฮอร์โมน เพื่อวางแผนการรักษาที่แม่นยำ

แพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ (หมอเบนซ์)

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมและศัลยกรรมเส้นผมที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ปริญญาโทด้านตจวิทยา (ผิวหนัง) จาก King's College London ได้รับการรับรองจาก American Board of Hair Restoration Surgery และเป็นสมาชิก ISHRS หมอเบนซ์มีประสบการณ์การทำงานที่ DHT Clinic และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และปัจจุบันให้บริการที่คลินิกปลูกผม Grow & Glow โดยมุ่งเน้นการรักษามาตรฐานระดับสากล


ปรึกษาออนไลน์ฟรีกับคุณหมอ