บริการปลูกผมถาวร FUE แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน เหล่านี้คือปัญหาที่คนจำนวนมากประสบพบเจอ และส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิต อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้แก้ได้ เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีการปลูกผมมีการพัฒนาอย่างมาก โดยเฉพาะการปลูกผมเทคนิค FUE (Follicular Unit Excision) ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีแผลเป็นน้อยที่สุด
ปลูกผม FUE คืออะไร ?
การปลูกผมถาวร FUE คือการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณที่มีผมหนา (เช่น ท้ายทอย) มายังบริเวณที่ขาดเส้นผม โดยใช้เทคนิคการเจาะรูเล็ก ๆ บนหนังศีรษะด้วยเครื่องมือพิเศษเพื่อทำการเก็บหน่วยรากผม (Follicular Unit) ทีละหน่วยจากบริเวณด้านหลังศีรษะที่มีผมหนาแน่น (Donor Area) แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ผมบาง ด้วยเหตุนี้ ขนาดแผลจึงเล็กมาก ๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดรอยแผลเป็นบนหนังศีรษะ รวมถึงการฟื้นตัวก็เร็วอีกด้วย
ทำไมต้องเลือกปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ?
- แผลเป็นน้อย : เทคนิค FUE จะไม่ทิ้งรอยแผลขนาดใหญ่ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บผมสั้นหรือมีแผลเป็นน้อยที่สุด
- การฟื้นตัวรวดเร็ว : หลังการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค FUE ผู้ป่วยสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้เลย และจากนั้นเพียง 1-2 สัปดาห์ก็กลับไปดำเนินชีวิตตามกิจวัตรปกติได้
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ : เส้นผมที่เติบโตจากการปลูกผม FUE จะมีลักษณะเป็นธรรมชาติและกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม
- เหมาะกับหลากหลายสภาพหนังศีรษะ : เทคนิค FUE เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมบางทั่วทั้งศีรษะและสามารถเลือกย้ายเซลล์รากผมได้หลายตำแหน่งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามความต้องการ
ขั้นตอนการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE
- การปรึกษาแพทย์ : แพทย์จะทำการประเมินสภาพหนังศีรษะของคุณ รวมถึงความเหมาะสมในการปลูกผมเทคนิค FUE เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์จะเป็นไปตามที่คาดหวัง
- เตรียมพื้นที่ที่จะย้ายเซลล์รากผม : ในขั้นตอนนี้จะทำการเลือกบริเวณที่มีผมหนาสำหรับการย้ายไปยังพื้นที่ที่ขาดผม
- การย้ายเซลล์รากผม : แพทย์จะสกัดเซลล์รากผมจากบริเวณที่มีผมหนาด้วยเครื่องมือพิเศษ จากนั้นนำไปปลูก ณ บริเวณที่ต้องการ
- การติดตามผลและดูแลหลังการปลูก : หลังการปลูกผม แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลหนังศีรษะเพื่อให้เส้นผมใหม่เติบโตได้อย่างสมบูรณ์และเป็นธรรมชาติ
ใครเหมาะกับการปลูกผม FUE ?
เทคนิค FUE เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือลดจำนวนลง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากกรรมพันธุ์หรือสภาวะทางร่างกายอื่น ๆ โดยผู้ที่เหมาะกับการปลูกผม FUE ได้แก่
- ผู้มีพื้นที่หนังศีรษะที่ขาดเส้นผม และต้องการฟื้นฟูโดยไม่ทิ้งรอยแผลใหญ่
- ผู้ต้องการฟื้นฟูเส้นผมแต่มีแผลเป็นหรืออาการผิวหนังอักเสบที่ต้องหลีกเลี่ยงการปลูกผมแบบอื่น
- ผู้มีสภาพร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด
ผลลัพธ์ของการปลูกผม FUE
หลังการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค FUE คุณจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือน โดยเส้นผมใหม่จะเริ่มขึ้นและดูเป็นธรรมชาติเหมือนเส้นผมดั้งเดิม นอกจากนี้ยังคาดหวังได้ถึงผลลัพธ์ที่ถาวร โดยเส้นผมที่ปลูกจะมีความแข็งแรงและสามารถเจริญเติบโตได้เหมือนเส้นผมที่เหลืออยู่
FAQ (คำถามที่พบบ่อย)
การปลูกผม FUE เจ็บไหม ?
กระบวนการปลูกผมเทคนิค FUE จะใช้ยาชาเฉพาะที่ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการปลูกผม หลังจากการปลูกเสร็จสิ้น อาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ทำการปลูก ซึ่งอาการนี้จะลดลงภายในไม่กี่วัน
ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหนหลังปลูกผม ?
ส่วนใหญ่กลับไปทำงานได้ภายใน 3-5 วัน และเมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ
ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน ?
เส้นผมที่ปลูกด้วยเทคนิค FUE จะมีผลลัพธ์ที่ถาวร เนื่องจากรากผมที่ย้ายมานั้นมีความทนทานและไม่อ่อนไหวต่อการหลุดร่วงเหมือนเส้นผมบริเวณเดิมที่สูญเสียไป
การปลูกผม FUE มีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงหรือไม่ ?
การปลูกผม FUE เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง แต่ผู้ป่วยอาจพบอาการบวม รอยแดง หรือความรู้สึกตึงบริเวณที่ปลูกในช่วงแรก ซึ่งอาการนี้จะค่อย ๆ หายไปเมื่อหนังศีรษะเริ่มฟื้นฟู
ปลูกผม FUE ราคาเท่าไร ?
การปลูกผม FUE จะคิดราคาตามจำนวนกราฟต์ผมที่ต้องการปลูก รวมถึงระดับความยากง่ายของการรักษา โดยสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายที่แน่นอนเพื่อประกอบการตัดสินใจได้
คืนความดกดำให้แก่เส้นผมบนหนังศีรษะ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Grow & Glow Clinic คลินิกปลูกผม FUE นำโดยแพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ (หมอเบนซ์) ที่จบการศึกษาเฉพาะทางจาก ISHRS และได้รับวุฒิบัตร American Board ด้านการปลูกผมระดับโลก มั่นใจได้ในทุกขั้นตอนด้วยการประเมินอย่างตรงจุด พร้อมเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทันสมัย ดูแลโดยทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 17 ปี ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 5,000 เคส สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 084-501-9989