เผยสรรพคุณว่านหางจระเข้สด กับการฟื้นฟูผมร่วงแบบปลอดภัย

ท่ามกลางตัวเลือกผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมดูแลเส้นผมที่มีอยู่หลากหลาย มีสมุนไพรพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่หลายคนต้องเคยได้ยินชื่อ แต่อาจยังไม่รู้ว่าซ่อนพลังแห่งการฟื้นฟูเอาไว้อย่างน่าทึ่ง สมุนไพรดังกล่าวคือ “ว่านหางจระเข้” พืชสีเขียวซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะยารักษาแผลจากธรรมชาติ แต่ในเชิงวิทยาศาสตร์ ว่านหางจระเข้ยังมีสารสำคัญที่สามารถส่งเสริมสุขภาพหนังศีรษะและบำรุงรากผมได้อีกด้วย !

ทำไมว่านหางจระเข้มีผลต่อสุขภาพเส้นผม ?

ว่านหางจระเข้ คือ พืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลายชนิด ซึ่งสามารถส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผม โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาผมบางจากภาวะเรื้อรัง เช่น ความเครียด ฮอร์โมน หรือพันธุกรรม

หนึ่งในสรรพคุณว่านหางจระเข้สด คือ มีเอนไซม์โปรติเอส (Protease Enzyme) ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วบนศีรษะ ลดการอุดตันของรูขุมขน และส่งเสริมการเกิดเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรง อันเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูการทำงานของรากผม

นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีสารอะโลอิน (Aloin) และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ บรรเทาอาการระคายเคืองหนังศีรษะ และช่วยปรับสมดุลค่า pH ซึ่งลดความเสี่ยงต่อการเกิดรังแค หรือปัญหาเส้นผมจากภาวะหนังศีรษะอักเสบเรื้อรัง

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม

กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะ

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ที่ส่งผลชัดเจนต่อการฟื้นฟูสุขภาพเส้นผม คือ ความสามารถในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณหนังศีรษะอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากว่านหางจระเข้มีสารประกอบที่ช่วยขยายหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนัง ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดสามารถนำออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็นต่อรากผมไปหล่อเลี้ยงได้อย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ วงจรชีวิตของเส้นผมในระยะการเจริญเติบโต (Anagen Phase) จึงมีความแข็งแรงและมีระยะยาวนานมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดโอกาสเกิดภาวะรากผมฝ่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของภาวะผมบางในระยะยาวอีกด้วย

เพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะ ลดปัญหารังแคและความแห้งกร้าน

งานวิจัยในวารสาร ScienceDirect ระบุถึงสรรพคุณว่านหางจระเข้สดว่า เนื้อวุ้น (Filet) ของว่านหางจระเข้มีปริมาณน้ำสูงสุดถึง 99.5% ทำให้สมุนไพรชนิดนี้มีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นแก่หนังศีรษะได้อย่างล้ำลึก โดยไม่ทิ้งความมันหรือสารตกค้างที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เมื่อหนังศีรษะไม่แห้งกร้าน ก็จะสามารถลดปัญหารังแคได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ ความชุ่มชื้นที่เพียงพอบนหนังศีรษะ ยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการหลั่งของน้ำมันตามธรรมชาติ ปรับสมดุลค่า pH ของผิว และป้องกันการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ทำให้โครงสร้างเส้นผมมีความยืดหยุ่น เสริมความแข็งแรงตั้งแต่รากจรดปลายผม

ช่วยลดการหลุดร่วงจากความเครียดหรือฮอร์โมน

สรรพคุณว่านหางจระเข้สด ยังรวมถึงการช่วยฟื้นฟูความสมดุลในระดับเซลล์จากปัจจัยภายใน เช่น ความเครียดเรื้อรัง หรือความเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของอาการผมร่วง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงาน ว่านหางจระเข้มีสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ ได้แก่ วิตามิน A, C, E และพอลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านความเสียหายของเซลล์จากความเครียดออกซิเดชัน (Oxidative Stress) อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ว่านหางจระเข้อย่างสม่ำเสมอจึงสามารถช่วยลดอัตราการหลุดร่วงของเส้นผมจากระบบภายในร่างกายได้ดี ทั้งยังช่วยฟื้นฟูหนังศีรษะให้อยู่ในสภาพสมดุล พร้อมรับการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ที่แข็งแรงและแน่นหนายิ่งขึ้น

วิธีหมักผมด้วยว่านหางจระเข้ แนวทางแนะนำสำหรับผู้ที่ผมร่วงหรือผมบาง

หนึ่งในวิธีใช้ที่เห็นผลได้ชัดเจน คือ การใช้ว่านหางจระเข้หมักผม ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน โดยไม่ต้องพึ่งผลิตภัณฑ์เคมีที่อาจทำให้หนังศีรษะไวต่อการแพ้มากขึ้น โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. เตรียมว่านหางจระเข้สด โดยเลือกใบว่านหางจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ แล้วนำมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกให้เหลือเฉพาะวุ้นใสด้านใน
2. บดหรือปั่นวุ้นให้ละเอียด เพื่อให้ได้เนื้อเจลเนียนละเอียด ทำให้สามารถซึมซาบเข้าสู่หนังศีรษะได้ดีขึ้น
3. ชโลมเจลว่านหางจระเข้ให้ทั่วหนังศีรษะและเส้นผม นวดเบา ๆ ด้วยปลายนิ้วประมาณ 5-10 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
4. คลุมผมด้วยหมวกอาบน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้สารออกฤทธิ์ซึมเข้าสู่รูขุมขนได้เต็มที่
5. ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและแชมพูสูตรอ่อนโยน เพื่อป้องกันการทำลายความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่ว่านหางจระเข้มอบให้
6. ทำเป็นประจำ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยให้ผมดูหนาขึ้น หนังศีรษะแข็งแรง และลดอัตราการหลุดร่วงได้ภายใน 1-2 เดือน

แม้ว่าว่านหางจระเข้จะมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์อย่างมาก แต่ในกรณีที่ปัญหาผมร่วงเกิดจากปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม หรือระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ การดูแลเฉพาะจากธรรมชาติอาจไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูรากผมที่เสื่อมสภาพแล้ว ในกรณีนี้ การเลือกแนวทางทางการแพทย์ที่มีความแม่นยำ เช่น การปลูกผม FUE (Follicular Unit Excision) จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า ด้วยเทคนิคการย้ายเซลล์รากผมแบบเฉพาะจุด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

Grow & Glow Clinic ให้บริการปลูกผม FUE โดยแพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ (หมอเบนซ์) แพทย์ด้านการปลูกผมที่ได้รับการรับรองจากสถาบันระดับนานาชาติ พร้อมประสบการณ์ตรงในการดูแลผู้มีภาวะผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้านโดยเฉพาะ ลงทะเบียนวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาออนไลน์กับคุณหมอโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อเราที่ LINE: @clinicgrowandglow หรือโทร. 084-501-9989

ข้อมูลอ้างอิง

1. Compositional features of polysaccharides from Aloe vera (Aloe barbadensis Miller) plant tissues. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 จาก https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0144861798001635. 
2. How to Use Aloe Vera for Your Healthiest Hair Yet. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 จาก https://www.ipsy.com/blog/aloe-vera-for-hair.