หัวเถิกเกิดจากอะไร รีบแก้ไขก่อนหัวล้าน

“หัวเถิก” เป็นปัญหาเรื่องผมที่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด ดังนั้นควรรู้วิธีการแก้ปัญหาหัวเถิกเอาไว้ เพราะเป็นอาการที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกคน โดยอาการหัวเถิก คือคนที่มีบริเวณหน้าผากร่นสูงมากกว่าปกติ มองเผิน ๆ อาจเหมือนคนหน้าผากกว้างแต่สำหรับบางคนไม่ใช่แค่นั้น แต่ยังมีผมที่บางลงไปด้วย จึงทำให้หัวเถิกกลายเป็นอีกปัญหากวนใจที่ใคร ๆ ก็อยากแก้ไข วันนี้ Grow & Glow Clinic คลินิกปลูกผมจะมาอธิบายถึงวิธีการแก้ปัญหาหัวเถิกว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อให้คุณรู้ทันก่อนสายเกินแก้

---

แก้ปัญหาหัวเถิกจากสาเหตุที่แท้จริง

หากใครที่กำลังมีปัญหาลักษณะหน้าผากสูงขึ้นเรื่อย ๆ เส้นผมหลุดร่วง เว้าลึกหรือถอยร่นเข้าไป จนกลายเป็นรูปตัว M หรือหากยังไม่แน่ใจ สามารถลองวัดด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ โดยการใช้ไม้บรรทัดวัด ตั้งแต่ บริเวณโคนผมลงมาถึงคิ้ว หากได้ความยาวเกิน 11 ซม. ถือว่าเข้าข่ายอาการหัวเถิก ซึ่งหากคุณอยากแก้ปัญหาหัวเถิกได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง คุณจำเป็นต้องรู้ถึงต้นตอสาเหตุหลักของปัญหาหัวเถิกก่อนเพื่อให้แก้ปัญหาหัวเถิกได้ตรงจุด ดังต่อไปนี้

1.เกิดจากกรรมพันธุ์

การแก้ปัญหาหัวเถิกข้อแรก นั้นเป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เป็นการส่งต่อทางพันธุกรรมภายในครอบครัว โดยส่วนมากจะพบในผู้ชายมากกว่า ในระยะแรก ๆ จะเริ่มเป็นแนวผมด้านหน้า จะเริ่มเถิกร่นขึ้นไปเรื่อย ๆ สาเหตุเกิดจากรากผมมีความไวต่อฮอร์โมนแอนโดรเจน ทำให้เส้นผมอายุสั้นมากกว่าปกติจนบางลงไปเรื่อยหากปล่อยไว้ปัญหาหัวเถิกอาจสายเกินแก้ ส่วนผู้หญิงก็สามารถเกิดได้ ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนแอนโดรเจนเช่นกัน

2.ปัญหาความเครียด

การแก้ปัญหาหัวเถิกข้อต่อมา คือ การรู้ถึงสาเหตุความเครียด เพราะความเครียดถือเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหัวเถิกอย่างมาก เนื่องจากเวลาคนเราเครียดจะหลั่งฮอร์โมน Cortisol มากกว่าปกติ ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้มีผลทำให้เส้นผมที่อยู่ในระยะเติบโต (Anagen) เข้าสู่ระยะพัก (Telogen) มากขึ้นทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติ หากภาวะเครียดลดลงเส้นผมก็จะฟื้นฟูเองตัวเองได้ภายใน 4 – 6 เดือน ก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาหัวเถิกได้

3.ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติบางช่วงเวลา

แก้ปัญหาหัวเถิกถัดมา คือ การรู้ถึงว่าบางช่วงเวลาร่างกายก็มีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการหัวเถิกและผมร่วงได้ โดยช่วงเวลาดังนี้

• ผู้หญิงหลังคลอด เป็นช่วงที่ฮอร์โมนกำลังปรับสมดุลทำให้เกิดภาวะผมร่วงหลังคลอด 2 – 3 เดือน และจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 6 – 12 เดือน
• ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เมื่อฮอร์โมนเพศหญิงลดลงทำให้ผมร่วงบางมากขึ้น
• ผู้หญิงที่มีภาวะถุงน้ำในรังไข่ (PCOS) จะมีระดับ Androgen มากกว่าปกติ ทำให้เกิดผมร่วงได้มาก มักมีอาการร่วมอื่นๆ เช่นเป็นสิวเยอะ ผิวมัน ขนดก

4.หัวเถิกจากเส้นผมและหนังศีรษะมีความผิดปกติ

ปัญหาหัวเถิกเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น หนังศีรษะบริเวณด้านหน้ามีการอักเสบติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือเชื้อรา, ภาวะต่อมไขมันบนหนังศีรษะอักเสบ, เกิดอาการสะเก็ดเงิน และอาการผมร่วงเป็นหย่อม โดยอาการเหล่านี้สามารถเข้ารับการรักษาและแก้ปัญหาหัวเถิกจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้

5.หัวเถิกจากภาวะโรคภัยไข้เจ็บ

การแก้ปัญหาหัวเถิกข้อนี้ เกิดจากอาการข้างเคียงของโรคร้ายแรงต่าง ๆ หลายโรคด้วยกันไม่ว่าจะเป็น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) ร่วมกับอาการอื่น ๆ อย่างปวดตามข้อ ผื่นขึ้นตามตัว ไข้เรื้อรัง, โรคไทยรอยด์ ทั้งไทรอยด์ที่เป็นพิษและอาการผลิตไทรอยด์น้อย และสุดท้ายคือโรคเรื้อรังประเภทอื่น ๆ อย่างโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, โรคตับเรื้อรัง, โรคไตเรื้อรัง เป็นต้น ทั้งนี้ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยแก้ปัญหาหัวเถิกและผมร่วง

6.พฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

สาเหตุหลักของปัญหาหัวเถิกหลายครั้ง มักเกิดจากพฤติกรรมที่คนเรามักชอบทำเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นการมัดผมแบบรวบตึงเป็นประจำ ทำให้แนวผมด้านหน้าค่อย ๆ เถิกร่น, การใช้สารเคมีอย่างเช่น การดัดผม ทำสีผมบ่อย ๆ และการใช้ความร้อนกับผมบ่อย ๆ อย่างการไดร์ผม ยืดผม เป็นต้น หากลดกิจกรรมเหล่านี้ก็จะช่วยแก้ปัญหาหัวเถิกลดลงได้

7.การสูบบุหรี่

หากมีคุณสามารถลดการสูบบุหรี่จะช่วยแก้ปัญหาหัวเถิกได้เป็นอย่างดี เพราะการสูบบุหรี่ในปริมาณมากและต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานทำให้มีผลต่อกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย รวมไปถึงเลือดที่ไหลเวียนบริเวณหนังศีรษะได้น้อยลงจึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาหัวเถิกและอาจสายเกินแก้ได้ เพราะสารอาหารที่เลือดนำเข้ามาเลี้ยงรากผมไม่เพียงพอจนทำให้เส้นผมหยุดการเติบโตในที่สุด

8.ผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรคบางชนิด

สาเหตุข้อสุดท้ายเพื่อแก้ปัญหาหัวเถิก เป็นผลจากการใช้ยารักษาโรคบางชนิดซึ่งอาจมีผลข้างเคียงต่อร่างกายได้หลายอาการ โดยหนึ่งนั้นคือภาวะผมร่วงที่เป็นสาเหตุของอาการหัวเถิก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาหัวเถิกอย่างถูกต้อง โดยยาที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วงมีดังนี้ ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด, ยารักษาคอพอกเป็นพิษ, ยาคุมกำเนิด, ยาใช้ป้องกันโรคเกาต์, ยาคลายเครียด, ยาโรคหัวใจ, ยาโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

หัวเถิกไม่อันตราย แต่ถ้าปล่อยไว้เสี่ยง “หัวล้าน”

หัวเถิกแบบไหนเสี่ยงหัวล้าน? หัวเถิกที่นำไปสู่หัวล้านได้ คือหัวเถิกแบบรูปตัว M ซึ่งเกิดจากโรคหัวล้านพันธุกรรม โดยหัวจะเริ่มเถิกบริเวณด้านข้างของหน้าผากร่นขึ้นไปมากกว่าปกติ แต่ผมตรงกลางยังไม่ร่นขึ้นตาม มีลักษณะเป็นรูปตัว M หากปล่อยไว้จะร่นขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นหัวล้านในที่สุด ดังนั้นควรรีบปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อรักษาและชะลออาการ

วิธีรักษาหัวเถิก มีอะไรบ้าง?

นอกจากการแก้ปัญหาหัวเถิกจาก 8 สาเหตุที่เรากล่าวมาข้างต้นแล้ว เราขอแนะนำวิธีรักษาหัวเถิกเพิ่มเติม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้อ่าน จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูพร้อมกัน

1. การเปลี่ยนสไตล์ทรงผม

ถ้าเบื้องต้นยังหัวเถิกไม่เยอะ การเปลี่ยนสไตล์ทรงผมถือเป็นวิธีรักษาหัวเถิกที่ทำได้ง่าย แม้จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ และไม่ได้ผลระยะยาว แต่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการแก้ไขอย่างรวดเร็ว มาลองดูทรงผมเพื่อปิดหัวเถิกกันดีกว่าว่ามีทรงไหนน่าสนใจบ้าง

ทรงผมหน้าม้าตัดตรง

ทรงผมยอดฮิตของสาว ๆ ที่สามารถปิดหัวเถิกได้ดีในระดับหนึ่ง และถือว่าเป็นอะไรที่เนียนมาก ๆ แต่จะมีข้อเสีย คือ บริเวณหน้าผากอาจเกิดสิวได้ง่ายหากดูแลได้ไม่ดีพอ หรือบางทีผมหน้าม้าหนาไปก็ทำให้รู้สึกร้อนและรำคาญ ซึ่งไม่เหมาะกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

ทรงผมหน้าม้าซีทรู

หน้าม้าแบบซีทรู คือการสอยให้หน้าม้าดูบางและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด สามารถจัดแต่งซีทรูได้หลากหลายรูปแบบ จะตัดตรง ตัดสไลด์ข้าง ๆ แบบบาง ๆ ก็ได้ทั้งหมด ซึ่งเหมาะมากสำหรับการปิดหัวเถิกแบบธรรมชาติ แต่ถ้าหากโดนลมหรือผมเสียทรงก็อาจจะเอาไม่อยู่ถ้าหน้าผากเถิกมากเกินไป

ทรงผมสไลด์แบบไล่ระดับ

ทรงผมนี้จะแตกต่างจากสองทรงก่อนหน้า โดยเน้นการแสกกลางหรือแสกข้าง และทำการสไลด์ผมด้านข้างเพื่อไล่ระดับให้ดูมีวอลลุ่ม ช่วยเพิ่มมิติให้กับใบหน้า และสามารถพลางหัวเถิกได้เป็นอย่างดี สำหรับทรงนี้ต้องบอกเลยว่าเหมาะกับคนที่มีหัวเถิกน้อย

2. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายรากผม เช่น สูบบุหรี่ มีภาวะความเครียด เป็นต้น รวมถึงแนะนำให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้เพื่อสุขภาพศีรษะที่ดี

• พักผ่อนให้เพียงพอ
• งดสูบบุหรี่
• ทานอาหารบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง เช่น ถั่วและธัญพืช ผักใบเขียว นมสด ชีส ไข่ เป็นต้น
• ทำความสะอาดเส้นผมเป็นประจำ โดยเน้นการนวดศีรษะเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
• หมั่นสังเกตเส้นผมของตนเองอยู่เสมอ หากพบความผิดปกติ เช่น ผมร่วงมากผิดปกติ ผมร่วงเป็นหย่อม เป็นต้น ให้รีบพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อวินิจฉัยและทำการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ

3. การใช้ยา

การใช้ยารักษาหัวเถิก เหมาะสำหรับคนหัวเถิกที่ยังมีรากผมอยู่ ยังไม่ฝ่อ โดยยาที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี 2 ชนิด ได้แก่

• ยาไฟแนสเตอรายด์ (Finasteride) ยารักษาผมบางและหัวล้านในผู้ชาย โดยออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนเพศชาย (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดผมบาง ผมร่วงนั่นเอง
• ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil) แบบทา สามารถกำหนดบริเวณที่ต้องการให้ผมและขนหนาขึ้นได้เลย สรรพคุณของยาตัวนี้ คือช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้รากผมได้รับสารอาหารได้อย่างเต็มที่ มีการเจริญเติบโตของเส้นผมมากขึ้น

การใช้ยาจะเห็นผลหรือไม่เห็นผล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาหัวเถิก ดังนั้นไม่แนะนำให้ซื้อยามาใช้เอง ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินถึงปัญหาและทำการจ่ายยา

4. การปลูกผมถาวร

การปลูกผมถาวร วิธีรักษาหัวเถิกที่เห็นผลได้มากกว่าวิธีอื่น ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่หัวเถิกตั้งแต่กำเนิด หรือรากผมฝ่อไปแล้ว โดยนำรากผมจากบริเวณท้ายทอยหรือกกหู ไปปลูกบริเวณที่หัวเถิก ทำให้มีผมช่วยปกปิดหัวเหม่ง มองดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ เรียกความมั่นใจกลับมาได้อย่างรวดเร็ว 

ปัจจุบันมีวิธีปลูกผมให้เลือก 2 เทคนิค ได้แก่ เทคนิคปลูกผมแบบ FUE และเทคนิคปลูกผมแบบ FUT

เทคนิคปลูกผม FUT

ปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation) การปลูกผมแบบ FUT จะทำโดยการตัดหนังศีรษะตื้น ๆ บริเวณท้ายทอยที่มีรากผมแข็งแรง และเป็นธรรมชาติเหมาะแก่การปลูกบริเวณกรอบหน้า โดยเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะเถิกค่อนข้างมาก ซึ่งการปลูกผมแบบนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพแต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องใช้เวลาพักฟื้นและระมัดระวังมากอยู่เหมือนกันกับบริเวณที่ได้มีการปลูกผม

เทคนิคปลูกผม FUE

ปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Excision) จัดว่าเป็นศัลยกรรมปลูกผมถาวรแบบใหม่ วิธีการจะใช้การย้ายรากผมโดยใช้เครื่องมือเจาะรากผมบริเวณท้ายทอย ไร้แผลเย็บ แล้วนำเอารากผมมาปลูกบริเวณที่มีศีรษะล้าน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะเถิกเล็กน้อย พักฟื้นน้อย เพราะแผลจะหายเร็ว

สรุปปัญหาหัวเถิกและวิธีรักษา

สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหัวเถิกที่นำเสนอไปข้างต้นนั้น ผู้อ่านสามารถนำไปสำรวจความผิดปกติของตัวเองได้เพื่อหาทางแก้ปัญหาหัวเถิกได้อย่างตรงจุด โดยวิธีแก้หัวเถิกก็มีหลายอย่างมากมาย ทั้งการใช้ยา การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือการเปลี่ยนสไตล์ทรงผม อย่างไรก็ตาม หากใช้วิธีดังกล่าวแล้วไม่ได้ผล การปลูกผมถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถแก้ปัญหาหัวเถิกได้อย่างถาวร โดยทางแพทย์จะทำการประเมินให้ว่าจะเลือกปลูกผมแบบไหนดี หากใครไม่รู้ว่าตัวเองหัวเถิกมากหรือน้อยก็มาปรึกษากับทาง Grow & Glow Clinic กันได้ เพื่อให้ทีมแพทย์ของเราวินิจฉัยอาการต่าง ๆ  และเลือกวิธีรักษาได้อย่างเหมาะสม เพราะเรื่องของผมเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ หากปล่อยทิ้งไว้ ระวังหัวล้านโดยไม่รู้ตัว!