
Telogen Effluvium คืออะไร ? รู้ทันก่อนเป็นโรคผมร่วงฉับพลัน
ทุกเช้าที่หยิบหวีขึ้นมา แล้วพบว่าเส้นผมหลุดติดออกมาเกินกว่าที่เคย หรือในระหว่างการสระผมที่ต้องก้มหน้ามองท่อระบายน้ำอย่างไม่สบายใจ วินาทีนั้นคุณอาจคิดว่าคงเป็นเพราะอายุของคุณเพิ่มมากขึ้น หรือไม่ก็คงเป็นเพราะกรรมพันธุ์ ทว่าหากเส้นผมร่วงในปริมาณมากอย่างเฉียบพลัน และกระจายทั่วศีรษะภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ นั่นอาจไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป เพราะอาจเป็นอาการของ “โรคผมร่วงฉับพลัน” หรือ Telogen Effluvium ที่สะท้อนความผิดปกติบางอย่างภายในร่างกาย

Telogen Effluvium คืออะไร ?
Telogen Effluvium คือ ภาวะผมร่วงฉับพลัน เกิดจากการที่เส้นผมเข้าสู่ระยะหลุดร่วง (Telogen Phase) พร้อมกันจำนวนมากในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ส่งผลให้ผู้ที่มีภาวะนี้สังเกตเห็นการร่วงของเส้นผมมากผิดปกติภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ โดยมักเกิดขึ้นหลังจากมีปัจจัยกระตุ้น เช่น ความเครียด การเจ็บป่วย การใช้ยา หรือภาวะเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอื่น ๆ
โดยทั่วไปแล้ว เส้นผมของมนุษย์จะมีการผลัดเปลี่ยนเป็นวงจร โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
- ระยะเติบโต (Anagen Phase)
- ระยะพัก (Catagen Phase)
- ระยะหลุดร่วง (Telogen Phase)
ในภาวะปกติ จะมีเพียงประมาณ 10-15% ของเส้นผมทั้งหมดที่อยู่ในระยะ Telogen แต่ในขณะเดียวกัน สำหรับผู้ที่มีภาวะโรคผมร่วงฉับพลัน ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและพร้อมกัน ส่งผลให้มีอาการผมร่วงจำนวนมากอย่างเห็นได้ชัด
อาการของผมร่วงฉับพลันแบบ Telogen Effluvium
- ผมร่วงมากผิดปกติ โดยเฉพาะขณะสระผม หรือหวีผม
- ผมบางลงอย่างรวดเร็วภายใน 1-3 เดือนหลังจากเผชิญปัจจัยกระตุ้น
- ผมร่วงกระจายทั่วศีรษะ ไม่ได้ร่วงเฉพาะจุดหรือเป็นหย่อม
- ไม่มีอาการคัน แดง หรือแผลที่หนังศีรษะร่วมด้วย
สาเหตุของโรค Telogen Effluvium คืออะไร ?
โรคผมร่วงฉับพลันสามารถเกิดได้จากปัจจัยกระตุ้นหลายประการ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยสาเหตุหลักที่พบบ่อย ได้แก่
ความเครียดทางร่างกาย (Physical Stress)
ภาวะที่ร่างกายต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหรือความเจ็บป่วยอย่างเฉียบพลัน จะส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงกระบวนการเจริญเติบโตของเส้นผมด้วย โดยตัวอย่างเหตุการณ์ที่อาจกระตุ้น เช่น การผ่าตัดใหญ่ โรคโควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก การคลอดบุตร หรืออุบัติเหตุ
ความเครียดทางจิตใจ (Emotional Stress)
แม้จะไม่ได้มีผลทางกายภาพโดยตรงเหมือนกับความเครียดทางร่างกาย แต่ภาวะความเครียดเรื้อรังทางอารมณ์ก็สามารถส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ควบคุมการทำงานของต่อมไขมันและรากผม ทำให้ผมเข้าสู่ระยะ Telogen เร็วขึ้น
การขาดสารอาหารสำคัญ
เส้นผมต้องพึ่งพาสารอาหารจากเลือดในการสร้างเซลล์ใหม่อย่างต่อเนื่อง หากร่างกายขาดสารอาหารเฉพาะบางชนิด เช่น การขาดธาตุเหล็ก สังกะสี โปรตีน รากผมจะเข้าสู่ภาวะพักตัวและหยุดการงอกใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด หรือมีปัญหาดูดซึมสารอาหารผิดปกติ
การใช้ยาและการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน
ระบบฮอร์โมนและเคมีในร่างกายมีผลต่อวงจรเส้นผมเป็นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เช่น การหยุดยาคุม หรือการใช้ยาบางชนิด จึงอาจไปยับยั้งการทำงานของรากผม ทำให้เส้นผมที่เคยได้รับการปกป้องจากฮอร์โมนเข้าสู่ระยะหลุดร่วงเร็วกว่าปกติ
ภาวะไทรอยด์ผิดปกติ
ต่อมไทรอยด์ควบคุมระบบเผาผลาญของร่างกายทั้งหมด รวมถึงอัตราการแบ่งตัวของเซลล์รากผม หากมีการทำงานที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) หรือทำงานน้อยเกิน (Hypothyroidism) ก็ล้วนสามารถรบกวนวงจรเส้นผมและทำให้ผมร่วงได้อย่างเฉียบพลัน
วิธีวินิจฉัยโรคผมร่วงฉับพลัน
- แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเส้นผมจะทำการวินิจฉัยโดยการสอบถามประวัติสุขภาพ การใช้ยา อาการที่เกิดขึ้น รวมถึงตรวจหนังศีรษะและเส้นผมอย่างละเอียด
- บางกรณีอาจมีการตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุ เช่น การตรวจระดับฮอร์โมน ไทรอยด์ หรือธาตุเหล็กในเลือด
- หากแพทย์สงสัยว่ามีภาวะผมร่วงชนิดอื่นร่วมด้วย เช่น Androgenetic Alopecia (ผมบางจากพันธุกรรม) หรือ Alopecia Areata (ผมร่วงเป็นหย่อม) อาจมีการตรวจหนังศีรษะโดยใช้กล้อง Trichoscope เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างเส้นผมอย่างละเอียด

แนวทางการรักษาโรคผมร่วงฉับพลันอย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่าโรคผมร่วงฉับพลันจะสามารถฟื้นฟูได้เองในหลายกรณี แต่การดูแลอย่างถูกวิธีก็สามารถเร่งการฟื้นตัว และลดโอกาสที่ปัญหานี้จะเรื้อรังได้ โดยแนวทางที่แนะนำ ได้แก่
แก้ไขต้นเหตุที่ทำให้ผมร่วง
การรักษาสาเหตุที่แท้จริง เช่น ควบคุมโรคไทรอยด์ เสริมสารอาหาร หรือจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม จะช่วยหยุดวงจรการหลุดร่วงของเส้นผมได้
การใช้วิตามินและอาหารเสริม
เช่น วิตามินบีคอมเพลกซ์ ไบโอติน ธาตุเหล็ก สังกะสี ฯลฯ แต่ควรรับประทานภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น เพื่อป้องกันการได้รับสารเกินความจำเป็น
การทำทรีตเมนต์กระตุ้นรากผม
การกระตุ้นรากผมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่น Mesotherapy (ฉีดวิตามินเข้าสู่หนังศีรษะ) หรือการเลเซอร์ระดับต่ำ (LLLT) ช่วยฟื้นฟูการทำงานของรากผม กระตุ้นการงอกใหม่ และลดการหลุดร่วง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผมเร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งยา
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลเส้นผม
หลีกเลี่ยงการมัดผมแน่น ๆ การใช้สารเคมีรุนแรงกับเส้นผม แล้วหันมาใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนแทน เพื่อลดแรงกระตุ้นต่อรากผมและหนังศีรษะ
การปลูกผม
ในกรณีที่ Telogen Effluvium เกิดร่วมกับภาวะผมบางถาวรจากพันธุกรรม หรือผู้ป่วยมีผมร่วงสะสมมานาน การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Excision) ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อเสริมความมั่นใจและคืนรูปแบบศีรษะที่แน่นหนาอย่างเป็นธรรมชาติ
Telogen Effluvium คือสัญญาณเตือนของร่างกายที่แสดงออกผ่านเส้นผม ไม่ใช่แค่ปัญหาความสวยงาม แต่เป็นผลสะท้อนของสุขภาพภายใน หากพบว่ามีผมร่วงฉับพลันมากผิดปกติ ควรรีบเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม
สำหรับผู้ที่ต้องการคำปรึกษาและแนวทางรักษาอย่างเป็นระบบ Grow & Glow Clinic คลินิกรักษาผมบาง พร้อมให้บริการโดยแพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ (หมอเบนซ์) แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการดูแลเส้นผมโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์สาเหตุเชิงลึก หรือการเลือกโปรแกรมทรีตเมนต์ที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล กรอกฟอร์มเพื่อรับคำปรึกษาออนไลน์ฟรีกับหมอเบนซ์ได้เลยวันนี้ หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ LINE: @clinicgrowandglow หรือโทร. 084-501-9989
ข้อมูลอ้างอิง
- ผู้ป่วยโรคผมร่วงและผมบาง. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 จาก https://www.rama.mahidol.ac.th/med/sites/default/files/public/pdf/medicinebook1/Ptn-Alopecia.pdf.
- Telogen effluvium (temporary hair loss). สืบค้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 จาก https://www.medicalnewstoday.com/articles/321590.