ศัลยกรรมปลูกผม (Hair Transplant)
สำหรับคนที่ผมร่วง ผมบางจนไม่เหลือรากผม การรักษาผมบางด้วยยาแก้ผมร่วง หรือทำเลเซอร์กระตุ้นรากผมจะไม่ได้ผลแล้ว เพราะไม่สามารถกระตุ้นรากผมให้สร้างเส้นผมใหม่ได้ วิธีเดียวที่เหลืออยู่จึงเป็นการทำศัลยกรรมปลูกผม (Hair Transplant) โดยการผ่าตัดย้ายเซลล์รากผมที่ยังแข็งแรงที่อยู่ในบริเวณอื่น มาปลูกบริเวณที่มีปัญหาเส้นผม สำหรับท่านใดที่ยังไม่เคยรู้จักการผ่าตัดปลูกผมมาก่อน คลินิกปลูกผมโกรว์แอนด์โกลว์ (Grow and Glow Clinic) จะพาไปทำความรู้จักอย่างละเอียดเอง!
ศัลยกรรมปลูกผม คืออะไร?
ศัลยกรรมปลูกผม (Hair Transplantation) เป็นหนึ่งในวิธีการปลูกผมโดยการศัลยกรรมผิวหนัง แพทย์จะทำการย้ายรากผมจากบริเวณที่มีความแข็งแรง เช่น บริเวณท้ายทอยหรือด้านข้างของศีรษะ มายังบริเวณที่มีปัญหาด้านเส้นผม เพื่อทำการปลูกผมถาวรลงบนบริเวณที่มีปัญหาเส้นผม เช่น ปัญหาผมบาง หรือ ศีรษะล้าน ตามบริเวณแนวผมและบริเวณกลางศีรษะ จึงเป็นการศัลยกรรรมที่ต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านของคลินิกปลูกผมเท่านั้น
ศัลยกรรมปลูกผมถาวรได้จริงหรือไม่ ?
การศัลยกรรมปลูกผม หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ปลูกผมถาวร” เป็นวิธีแก้ปัญหาเส้นผม รักษาผมบางและศีรษะล้านจากพันธุกรรมได้อย่างเห็นผล เพราะเป็นวิธีการย้ายรากผมจากบริเวณที่มีอิทธิพลจากฮอร์โมนน้อยไปยังบริเวณที่มีอิทธิพลจากฮอร์โมนมาก รากผมที่ทำการย้ายนำไปปลูกใหม่ จึงสามารถเติบโตและคงอยู่ได้อย่างถาวร ให้ผลลัพธ์การปลูกผมอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับวิธีปลูกผมแบบอื่น เช่น วิธีการกินยาหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ปลูกผมที่ไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ในแต่ละคนได้
ศัลยกรรมปลูกผมเหมาะกับใคร ?
ผู้ที่เหมาะสำหรับการทำศัลยกรรมปลูกผม มีดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้าน
- ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงสาเหตุจากพันธุกรรม (ขึ้นกับความรุนแรง)
- ปลูกผมผู้หญิงเพื่อปรับกรอบหน้าสำหรับแก้หน้าผากเถิก
- ปลูกผมทับรอยแผลเป็น เช่น แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลผ่าตัดศีรษะ
- ปลูกผมทับโรคผมร่วงชนิดที่ทำให้เกิดแผลเป็น
ด้วยเทคนิคศัลยกรรมปลูกผมจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และทำการปลูกผมใหม่ให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด
ศัลยกรรมปลูกผมที่ให้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ
วิธีปลูกผมที่ให้ผลลัพธ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุดในปัจจุบัน ที่ทางคลินิกเวชกรรมโกรว์แอน์โกลว์ได้เปิดให้บริการมี 2 เทคนิคตามมาตรฐานขององค์กรปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) คือ เทคนิค Follicular Unit Transplantation (FUT) และ เทคนิค Follicular Unit Excision (FUE) สามารถรับคำปรึกษาเทคนิคการปลูกผมแบบเป็นธรรมชาติที่เหมาะสมกับคุณได้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของเรา
วิธีปลูกผมถาวรเทคนิคไหนดี เหมาะกับปัญหาผมของคุณ?
แท้จริงแล้ว วิธีปลูกผมด้วยเทคนิคปลูกผม FUE ที่ใช้วิธีการเจาะเซลล์รากผม และเทคนิคปลูกผม FUT ที่เป็นการผ่าตัดด้วยการกรีดหนังศีรษะตื้นๆนั้น ต่างให้ผลลัพธ์ในการปลูกผมถาวรที่คล้ายคลึงกัน แต่อาจจะมีข้อแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาเส้นผมของแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งก่อนการเลือกเทคนิคศัลยกรรมปลูกผมควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ศัลยกรรมพลาสติกเฉพาะทางด้านการปลูกผมที่ Grow and Glow เพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล เนื่องจากการรักษาด้วยวิธีการปลูกผม จำเป็นต้องประเมินทั้งสาเหตุ อายุ คุณภาพของเส้นผม และความรุนแรงไปพร้อมๆ กันก่อนจะเริ่มปลูกผมถาวรได้
รูปแบบของการผ่าตัดปลูกผม
ศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUT จะเป็นการที่แพทย์นำกราฟผมออกมา จากบริเวณที่มีกราฟผมแข็งแรง โดยการผ่าตัดด้วยการกรีดหนังศีรษะตื้น ๆ ลากยาวไปตามบริเวณท้ายทอย จากนั้นทำการแยกเฉพาะเซลล์รากผมโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ จนได้หน่วยรากผมที่เล็กที่สุดก่อนนำไปปลูกผมในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งจะแตกต่างกับเทคนิคศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUE ตรงที่ทางเทคนิคปลูกผม FUE จะใช้เครื่องมือพิเศษที่มีหัวเจาะขนาดเล็กมากในการเจาะเซลล์รากผม ให้เป็นรูขนาดเล็ก กระจายอยู่ทั่วศีรษะ ทำให้ไม่มีแผลของฝีเย็บ
ระยะเวลาการผ่าตัดและพักฟื้น
เนื่องจากเทคนิคการศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUT ต้องมีการผ่าตัดเป็นแนวยาวบริเวณท้ายทอย ทำให้มีแผลเป็นค่อนข้างยาวกว่าเทคนิคศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUE ที่ใช้หัวเจาะขนาดเล็กซึ่งให้แผลที่ออกมาเป็นรูขนาดเล็ก กระจายทั่วศีรษะ จึงทำให้หลังจากการปลูกผมแบบ FUT ต้องใช้เวลาการพักฟื้นที่นานกว่า และเทคนิค FUT ควรไว้ผมยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร เพื่อบดบังแผลผ่าตัดเอาไว้
จำนวนกราฟเส้นผมในการปลูกผม
เทคนิค FUT เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผมที่ทำให้ได้จำนวนกราฟเส้นผมจำนวนครั้งละมาก ๆ ที่จะมีความแข็งแรง สมบูรณ์ค่อนข้างสูง และมีการหลุดร่วงของเส้นผมน้อยที่สุด เพราะเทคนิคการศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUT ถือเป็นวิธีการศัลยกรรมปลูกผมมาตรฐานที่ทำให้ได้เซลล์รากผมซึ่งมีโอกาสเสียหายหรือบอบช้ำน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUE
ศัลยกรรมปลูกผมราคาเท่าไหร่ ?
การศัลยกรรมปลูกผมถาวรราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลหรือตามความรุนแรงของอาการ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการกินยาหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ปลูกผมที่ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล หรืออาจไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้เลยนั้น การปลูกผมถาวรราคาอาจคุ้มค่ามากกว่า อีกทั้งเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดปลูกผม
- เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจประเมิน และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
- งดรับประทานยาและวิตามินที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น แอสไพริน น้ำมันปลา วิตามินอี แปะก๊วย โสม สมุนไพรต่าง ๆ หรือยาแก้อักเสบ เป็นต้น
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในวันผ่าตัด เพราะจะทำให้เลือดแข็งตัวช้า
- งดทำสีผมและย้อมผม อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- สวมใส่เสื้อผ้าที่เป็นกระดุม สามารถผลัดเปลี่ยนได้ง่ายโดยที่ไม่กระทบต่อแผลผ่าตัด
- ให้พาคนมารับกลับบ้านด้วย เพราะอาจได้รับยานอนหลับในระหว่างผ่าตัด
ขั้นตอนการผ่าตัดปลูกผม
ขั้นตอนการผ่าตัดปลูกผมจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ขั้นตอนการย้ายรากผม ขั้นตอนแยกเซลล์ผม และขั้นตอนการปลูกผม มีรายละเอียดดังนี้
ขั้นตอนย้ายรากผม
- แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่
- หลังจากนั้นจะผ่าตัดย้ายรากผม โดยเทคนิค FUT จะผ่าตัดนำชิ้นหนังศีรษะบางส่วนออกมา ส่วนเทคนิค FUE จะใช้เครื่องเจาะขนาดเล็กประมาณ 0.8-1.0 มิลลิเมตร เจาะผ่านหนังศีรษะแล้วดึงเซลล์รากผมออกมาโดยตรง
ขั้นตอนแยกเซลล์รากผม
- ในคนที่ปลูกผมด้วยเทคนิค FUT แพทย์จะนำหนังศีรษะที่ผ่าตัดออกมาไปเก็บรักษาในน้ำเลี้ยงเซลล์
- หลังจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญจะคัดแยกเซลล์รากผมที่มีคุณภาพด้วยกล้องจุลทรรศน์
- ในคนที่ปลูกผมด้วยเทคนิค FUE กราฟผมจะถูกตกแต่งภายใต้กล้องจุลทรรศน์และเก็บรักษาในน้ำเลี้ยงเซลล์เช่นกัน
ขั้นตอนการปลูกผม
- แพทย์จะฉีดยาชาบริเวณที่ต้องการจะปลูก รวมถึงให้ยาห้ามเลือดที่ผสมในน้ำเกลือ
- หลังจากนั้นจะทำการเจาะหนังศีรษะตามทิศทางของเส้นผมเดิม แล้วนำเซลล์รากผม หรือกราฟผมที่เตรียมไว้มาปลูก
- เมื่อปลูกผมเสร็จแล้ว สามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ตามปกติ โดยแพทย์จะนัดหมายมาตรวจติดตามอาการและสอนวิธีการสระผมที่ถูกต้องในวันถัดไป
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดปลูกผม
- นอนหมอนสูงในช่วง 1 วันแรกหลังผ่าตัดปลูกผม
- งดสระผมด้วยตนเองในช่วงแรกหลังผ่าตัดปลูกผม แนะนำให้มาที่คลินิกเพื่อให้เจ้าหน้าที่สระผมให้ เพื่อลดความเสี่ยงในการทำร้ายเซลล์รากผม
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังรักษา แนะนำให้สระผมทุกวันด้วยแชมพูสระผมชนิดอ่อน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำให้ครบตามที่ร่างกายต้องการ เพื่อให้กระบวนการฟื้นฟูมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- มาพบแพทย์เพื่อตรวจติดตามผลการรักษาตามนัดหมาย
ผลลัพธ์ผ่าตัดปลูกผมเป็นอย่างไร เมื่อไหร่ถึงกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ?
หลังจากที่ปลูกผมเสร็จแล้ว ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ตามปกติ แต่ให้งดสระผมด้วยตัวเองก่อนในช่วงแรกหลังจากที่ผ่าตัด เพราะอาจสระผมผิดวิธีและส่งผลกระทบต่อเซลล์รากผมที่ปลูกได้
ในวันถัดไปให้กลับมาพบคุณหมออีกครั้งเพื่อตรวจติดตามผลการรักษา เมื่อคุณหมอตรวจเสร็จแล้วก็จะจ่ายยา และให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น อาจแนะนำให้ฉายแสงเลเซอร์กระตุ้นรากผม หรือฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP เพื่อช่วยให้ผมที่ปลูกใหม่เจริญเติบโตได้ดีขึ้น
หลังจากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่คลินิกมาสระผม พร้อมสอนวิธีการสระผมที่ถูกต้องให้ เพื่อที่จะได้ดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมต่อไป โดยผลลัพธ์ของการผ่าตัดปลูกผมในแต่ละช่วงเวลาจะมีรายละเอียดดังนี้
- 2 สัปดาห์แรก : ผมจะยังอยู่ดีตามที่เราปลูก เป็นช่วงที่ผมสวยที่สุด แต่ขนาดผมจะมีลักษณะเป็นเส้นสั้น ๆ
- 3 สัปดาห์ – 3 เดือน : ผมจะเริ่มร่วง จะร่วงมาก ร่วงน้อย หรือเหลือผมมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเลย ไม่สามารถคาดเดาได้
- 4 เดือน : เริ่มเห็นผมที่ร่วงไปขึ้นแล้ว และจะขึ้นไปเรื่อย ๆ
- 8 เดือน : ผมขึ้นมากจนสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- 1 ปี – 1 ปีครึ่ง : ผมขึ้นอย่างเต็มที่ เห็นผลลัพธ์ของการปลูกผม 100%
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศัลยกรรมปลูกผม
1. ปลูกผมวิธีไหนดีที่สุด?
- ศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUT จะเป็นการที่แพทย์นำกราฟผมออกมา จากบริเวณที่มีกราฟผมแข็งแรง โดยการผ่าตัดด้วยการกรีดหนังศีรษะตื้น ๆ ลากยาวไปตามบริเวณท้ายทอย จากนั้นทำการแยกเฉพาะเซลล์รากผมโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ จนได้หน่วยรากผมที่เล็กที่สุดก่อนนำไปปลูกผมในบริเวณที่ต้องการ
- ศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUE จะแตกต่างตรงที่เทคนิคปลูกผม FUE จะใช้เครื่องมือพิเศษที่มีหัวเจาะขนาดเล็กมากในการเจาะเซลล์รากผม ให้เป็นรูขนาดเล็ก กระจายอยู่ทั่วศีรษะ ทำให้ไม่มีแผลของฝีเย็บ
2. ระยะเวลาการผ่าตัดและพักฟื้นนานไหม?
ระยะเวลาการทำและการพักฟื้นจะขึ้นอยู่กับเทคนิคการปลูกผม โดยเทคนิคการศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUT ต้องมีการผ่าตัดเป็นแนวยาวบริเวณท้ายทอย ทำให้มีแผลเป็นค่อนข้างยาวกว่าเทคนิคศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUE ที่ใช้หัวเจาะขนาดเล็กซึ่งให้แผลที่ออกมาเป็นรูขนาดเล็ก กระจายทั่วศีรษะ จึงทำให้หลังจากการปลูกผมแบบ FUT ต้องใช้เวลาการพักฟื้นที่นานกว่า และเทคนิค FUT ควรไว้ผมยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร เพื่อบดบังแผลผ่าตัดเอาไว้
3. ปลูกผมเจ็บไหม?
การปลูกผมไม่เจ็บอย่างที่คิด เนื่องจากแพทย์จะมีการฉีดยาชาก่อนเริ่มขั้นตอนปลูกผมเสมอ และหลังจากปลูกผมเสร็จ หากมีอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ ซึ่งอาการปวดจะอยู่ประมาณ 2-3 วันเท่านั้นแล้วแต่คน แต่หากมีอาการปวดนานเกิน 1 สัปดาห์ควรปรึกษาแพทย์เพื่อดูอาการ
4. ปลูกผมอยู่ได้นานแค่ไหน?
หลังการปลูกผมไปแล้วช่วง 1-2 เดือนแรก เส้นผมที่ปลูกจะเริ่มร่วงแต่จะกลับมาขึ้นใหม่ในช่วงเดือนที่ 3-4 จากนั้นเส้นผมจะเริ่มยาวและแข็งแรงขึ้น โดยประมาณ 1-2 ปี ผมจะขึ้นเป็นปกติตรงบริเวณที่ปลูกและมีความแข็งแรงเหมือนบริเวณอื่น ๆ แต่ผลลัพธ์ของการปลูกผมจะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ยังขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ด้วย
5. ปลูกผมห้ามทำอะไรบ้าง?
หลังจากการปลูกผมต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษในช่วง 1 สัปดาห์แรก หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือกีฬาที่ทำให้เหงื่อออกมาก ๆ หรือการโดนกระแทกแรง ๆ เพราะอาจทำให้กราฟผมหลุด หรือเกิดความเสียหายได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้กลับไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามปกติ 1 เดือนหลังจากการปลูกผม
6. จำนวนกราฟสำหรับศัลยกรรมปลูกผม?
กราฟผม คือ รากผมหรือกอผมที่นำไปใช้สำหรับการปลูกผม โดยเทคนิค FUT เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผมที่ทำให้ได้จำนวนกราฟเส้นผมจำนวนครั้งละมาก ๆ ที่จะมีความแข็งแรง สมบูรณ์ค่อนข้างสูง และมีการหลุดร่วงของเส้นผมน้อยที่สุด เพราะเทคนิคการปลูกผมแบบ FUT ถือเป็นวิธีการศัลยกรรมปลูกผมมาตรฐานที่ทำให้ได้เซลล์รากผมซึ่งมีโอกาสเสียหายหรือบอบช้ำน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคปลูกผมแบบ FUE
7. ปลูกผมกราฟละกี่บาท?
ปลูกผมราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟและเทคนิคการปลูกผม ซึ่งจะมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับโปรโมชันในช่วงนั้น ๆ ของคลินิกด้วย แต่โดยปกติปลูกผมราคาจะอยู่ที่กราฟละ
- 70-95 บาท/กราฟ สำหรับ FUT และ Shaven FUE
- 150 บาท/กราฟ สำหรับ Non Shaven FUE
- 200 บาท/กราฟ สำหรับ Long Hair FUE
- 150 บาท/กราฟ สำหรับปลูกคิ้ว
- 150 บาท/กราฟ สำหรับปลูกหนวด
8. ศัลยกรรมปลูกผมราคาเท่าไหร่?
การศัลยกรรมปลูกผมถาวรราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลหรือตามความรุนแรงของอาการ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการกินยาหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ปลูกผมที่ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล หรืออาจไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้เลยนั้น การปลูกผมถาวรราคาอาจคุ้มค่ามากกว่า อีกทั้งเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าอีกด้วย
9. ปลูกผมใช้เวลากี่ชั่วโมง ปลูกผมใช้เวลานานไหม?
ขั้นตอนการปลูกผมจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6 – 10 ชั่วโมง หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่ปลูก อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ทำการผ่าตัดปลูกผม สามารถขอพักเบรคเพื่อรับประทานอาหาร หรือเข้าห้องน้ำได้ ไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด
10. ปลูกผมกี่วันถึงสระผมได้?
หลังจากปลูกผม 1 วัน ก็สามารถสระผมได้แล้ว ซึ่งโดยส่วนใหญ่ แพทย์จะนัดเข้ามาตรวจติดตามผลการรักษา และให้เจ้าหน้าที่ทำการสระผมให้ในช่วงแรก เพื่อป้องกันการสระผมผิดวิธี หรือสระผมแรงเกินไปจนส่งผลกระทบต่อกราฟผมที่ปลูกได้