
เทคนิคปลูกผม FUE หรือปลูกผม DHI
ปัจจุบันการศัลยกรรมปลูกผมกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะเป็นวิธีแก้ปัญหาผมร่วง รักษาผมบาง หรือศีรษะล้านได้เป็นอย่างดี และเป็นวิธีการรักษาปัญหาเส้นผมต่างๆ ที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนในเวลารวดเร็ว ต่างจากการรักษาปัญหาเส้นผมแบบเดิมๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเส้นผมให้ดกหนา ดำเงางาม และงอกใหม่ได้เมื่อเทียบกับการปลูกผม ในทุกวันนี้มีการพัฒนานวัตกรรมศัลยกรรมปลูกผมขึ้นมาใหม่หลายวิธี วันนี้เราจะมาแนะนำนวัตกรรมใหม่ของการปลูกผมแบบพิเศษ ด้วยเทคนิคปลูกผม FUE หรือ ปลูกผม DHI คืออะไร มีขั้นตอนอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง เพื่อให้คุณได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนการปลูกผม
ทำความรู้จักเทคนิค ปลูกผม FUE หรือ ปลูกผม DHI
เทคนิคปลูกผม FUE (Follicular Unit Excision) คือ เทคนิคการศัลยกรรมปลูกผมถาวรแบบใหม่ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ การปลูกผมแบบ DHI เป็นหนึ่งในวิธีปลูกผมที่ใช้หลักในการย้ายรากผมจากบริเวณท้ายทอยแบบเดียวกันกับเทคนิค FUE เพื่อแก้ไขปัญหาเส้นผมต่าง ๆ เช่น ปัญหาผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้านที่ต่างจากแบบเดิมที่เรียกว่า Strip Technique โดยเทคนิคปลูกผม FUE จะเป็นการใช้เครื่องมือพิเศษที่มีหัวเจาะขนาดเล็กมาก (เล็กกว่า 0.8 มิลลิเมตร) เจาะเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอย ไร้แผลเย็บ แล้วนำเอารากผมดังกล่าวย้ายมาปลูกบริเวณที่มีศีรษะล้าน นอกจากนี้ วิธีปลูกผมแบบ FUE ยังสามารถย้ายเซลล์เส้นขนจากบริเวณอื่นๆ เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ย้ายมาปลูกบริเวณศีรษะได้ด้วย
เทคนิคปลูกผม FUE / ปลูกผม DHI เหมาะกับใคร ?
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านเล็กน้อย
- เหมาะกับผู้ที่ชอบไว้ผมรองทรงสั้นหรือสกินเฮด เพราะเห็นรอยแผลเป็นไม่ชัด
- เหมาะกับผู้ที่มีเวลาพักฟื้นน้อย เพราะแผลจะหายเร็วกว่า
- เหมาะกับผู้ที่กลัวเจ็บ กลัวการผ่าตัด หรือมีความกังวลใจสูง
ข้อดีของการปลูกผม FUE / ปลูกผม DHI
ศัลยกรรมปลูกผม FUE ถาวร เห็นผลลัพธ์ได้อย่างที่ต้องการ ด้วยเทคนิคการปลูกผมที่ไร้รอยต่อ ไร้แผลเย็บ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของการปลูกผมด้วยเทคนิคนี้ การปลูกผม FUE จะใช้วิธีการเจาะเอาเซลล์รากผมจากบริเวณที่แข็งแรง ย้ายไปปลูกบริเวณที่ต้องการบนศีรษะ จึงไร้แผลเย็บที่เป็นแนวยาวต่างจากการปลูกผมแบบเดิม เทคนิคการปลูกผมนี้ จึงต้องใช้ความละเอียดและความชำนาญของแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น และยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้หลายคนเลือกใช้เทคนิคการปลูกผมนี้
- แผลจะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ เท่านั้น
- แผลทางด้านหลังศีรษะหายไว ประมาณ 1 สัปดาห์
- สามารถไว้ผมรองทรงสั้นได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็นบนศีรษะ
เตรียมตัวก่อนการปลูกผม
เพื่อให้การศัลยกรรมปลูกผมดำเนินไปอย่างราบรื่น ทั้งในระหว่างขั้นตอนการทำและผลลัพธ์หลังจากนั้น การเตรียมตัวของเราให้พร้อมมีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษาแพทย์โดยตรง เพราะแต่ละคนอาจมีสิ่งที่ต้องเตรียมตัวแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในเรื่องของการงดกินยา อาหารเสริมบางประเภท หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว
- นอนหลับให้เพียงพอ
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- งดดื่มชา กาแฟ ก่อนการทำศัลยกรรม
ขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUE / ปลูกผม DHI
เจาะลึกขั้นตอนการปลูกผม FUE หรือ วิธีการปลูกผม DHI แบบละเอียด โดยแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม ดีกรีจากสถาบันปลูกผมระดับโลกที่มีประสบการณ์มากกว่า 5,000 เคส
ขั้นตอนที่ 1
ขั้นตอนที่ 1 เข้ารับการปรึกษาพูดคุยกับแพทย์เฉพาะทางของคลินิกปลูกผมโกรว์แอน์โกลว์ และออกแบบวาดแนวผมที่จะทำการปลูก เพื่อวัดพื้นที่และคำนวณจำนวนกราฟที่ใช้ในการปลูกผม
ขั้นตอนที่ 2
ขั้นต่อมาของเทคนิคปลูกผม FUE คือการโกนผมสั้นบริเวณท้ายทอยให้สั้นลง จนสามารถมองเห็นหนังศีรษะ เพื่อวางแผนในการเจาะเอาเซลล์รากผมที่แข็งแรงในบริเวณท้ายทอยไปใช้
ขั้นตอนที่ 3
หลังจากทำการวางแผนประเมินบริเวณที่จะทำการย้ายเซลล์รากผมได้แล้ว แพทย์เฉพาะทางจะลงมือฉีดยาชาเฉพาะที่ ตลอดแนวหนังศีรษะที่วาดไว้ และรอยาชาออกฤทธิ์
ขั้นตอนที่ 4
เมื่อยาชาออกฤทธิ์เป็นที่เรียบร้อย แพทย์จะเริ่มใช้เครื่องมือพิเศษ เพื่อเจาะนำเอาเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอย โดยการใช้ตัวเจาะขนาดเล็ก 0.8 มม. เพื่อให้เกิดจุดแผลเป็น ขนาดเล็กที่สุด
ขั้นตอนที่ 5
แพทย์นำเอาเครื่องมือเฉพาะทางที่ใช้ในเทคนิคปลูกผม FUE ทำการเก็บเซลล์รากผมที่แข็งแรงออกมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นแผลเจาะ เป็นจุดเล็ก ๆ กระจาย ๆ ตามกลุ่มเส้นผม
ขั้นตอนที่ 6
ตรวจสอบความสมบูรณ์ของเซลล์รากผม ภายใต้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง ก่อนนำไปปลูกในพื้นที่ที่มีความสมบูรณ์ของเซลล์รากผมน้อยกว่า เพื่อแก้ไขปัญหาเส้นผมของคุณ