ผมร่วงเยอะมากเกิดจากอะไร พร้อมแนะนำ 9 วิธีแก้ปัญหาผมร่วงอย่างเห็นผล
หากพูดถึงวิธีแก้ปัญหาผมร่วงเยอะมาก ผมบาง ศีรษะล้าน ในปัจจุบัน หลายคนคงนึกถึงศัลยกรรมปลูกผมเท่านั้นถึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่คุณ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีวิธีการอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถให้ผลลัพธ์ได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งผลลัพธ์นี้ก็ขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักของปัญหาผมร่วงในแต่ละบุคคล ที่ในบางคนอาจไม่จำเป็นต้องถึงขั้นต้องทำศัลยกรรมปลูกผม เพียงทำความเข้าใจสาเหตุผมร่วงของเราแล้วลองทำตามวิธีการต่าง ๆ ที่เราได้แนะนำ ก็อาจช่วยหยุดสาเหตุของปัญหาได้แล้วเช่นกัน
ปกติแล้ว ผมของคนเราจะร่วงวันละกี่เส้น ?
โดยปกติแล้ว เส้นผมของคนเราจะมีการร่วงทุกวัน โดยในผู้ชาย จะมีผมร่วงประมาณวันละ 50 – 60 เส้นต่อวัน ส่วนผู้หญิงจะมีผมร่วงวันละประมาณ 70 – 100 เส้นต่อวัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนรูขน สภาพเส้นผม และสุขภาพของแต่ละคนด้วย
ผมร่วงแบบไหนอันตราย ?
ผู้ชายและผู้หญิงที่มีผมร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน จะถือว่ามีอาการผมร่วงเยอะมากผิดปกติ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผมร่วงเยอะมากจนทำให้ผมบาง ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์และทำให้สูญเสียความมั่นใจได้
ส่วนอาการผมร่วงที่ถือว่าอันตราย และต้องรีบไปพบแพทย์ทันที จะเป็นอาการผมร่วงที่มาพร้อมกับอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น มีอาการคัน แดง แสบ มีสะเก็ด หรือเป็นหนองพุพองร่วมด้วย เป็นต้น
ผมร่วงแบบไหนอันตราย ?
ผู้ชายและผู้หญิงที่มีผมร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน จะถือว่ามีอาการผมร่วงเยอะมากผิดปกติ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผมร่วงเยอะมากจนทำให้ผมบาง ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์และทำให้สูญเสียความมั่นใจได้
ส่วนอาการผมร่วงที่ถือว่าอันตราย และต้องรีบไปพบแพทย์ทันที จะเป็นอาการผมร่วงที่มาพร้อมกับอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น มีอาการคัน แดง แสบ มีสะเก็ด หรือเป็นหนองพุพองร่วมด้วย เป็นต้น
แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าผมร่วงมากผิดปกติ ?
วิธีสังเกตว่ามีอาการผมร่วงเยอะมากกว่าปกติแบบง่าย ๆ สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้
- หวีผมก่อนสระผมติดต่อกัน 1 นาที ถ้าหากมีผมร่วงมากกว่า 30 เส้น แสดงว่าผมร่วงเยอะผิดปกติ
- นับเส้นผมที่ร่วงหลังสระผม หากสระทุกวัน ไม่ควรมีผมร่วงเกิน 100 เส้น ถ้าหากสระวันเว้นวัน ไม่ควรมีร่วงเกิน 200 เส้น
ผมร่วงเยอะมาก ๆ เกิดจากอะไร ?
ผมร่วงเยอะมาก ๆ เกิดได้จากหลายสาเหตุมาก เช่น
- พฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผมและหนังศีรษะ เช่น สระผมอย่างรุนแรง ย้อมผมหรือดัดผมบ่อยเกินไป หวีผม หรือนอนหลับในขณะที่ผมเปียก เป็นต้น
- ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
- ความเครียดมากผิดปกติ หรือได้รับกระทบกระเทือนทางจิตใจ
- อาการแพ้ยา
- การฉายรังสี
- ปัญหาเกี่ยวกับระดับฮอร์โมนในร่างกาย
- การติดเชื้อต่าง ๆ เช่น เชื้อรา ซิฟิลิส เอสไอวี หรือเริม
- โรค หรือภาวะต่าง ๆ ที่ทำให้ผมร่วง เช่น ภาวะโลหิตจาง ภาวะทุพโภชนาการ ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคภูมิแพ้รากผม โรคไตวาย หรือลองโควิด เป็นต้น
- การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
รวม 9 วิธีแก้ปัญหาผมร่วง โดยไม่ต้องปลูกผม
ปัญหาผมร่วงเยอะมาก ผมบาง ศีรษะล้าน หลายคนคงคิดว่าต้องรักษาด้วยการปลูกผมถึงจะจบ แต่ความจริงแล้วยังมีวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นการปลูกผมเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยระดับความรุนแรงของอาการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ว่าควรต้องรักษาด้วยวิธีการใดจึงจะเหมาะสมที่สุด บทความนี้จะมาแนะนำวิธีแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ตามอาการที่คุณกำลังพบเจอ ดังนี้
1. บำรุงรากผมและหนังศีรษะด้วยเซรั่ม
เป็นวิธีรักษาในระยะแรกที่อาการยังไม่หนักมาก เพราะยังมีไรและรากผมอยู่เพียงแค่ขนาดของรากผมเริ่มมีเส้นที่เล็กลงมากกว่าปกติ สามารถแก้ปัญหาผมร่วงได้โดยการบำรุงรากผมและหนังศีรษะด้วยเซรั่มบำรุงรากผมที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อช่วยฟื้นฟูรากผมให้กลับมาทำงานตามปกติ เกิดเส้นผมงอกขึ้นมาใหม่ และลดอัตราการร่วงของเส้นผม สำหรับทาง Grow & Glow Clinic ก็มีผลิตภัณฑ์เซรั่มสำหรับบำรุงรากผมโดยเฉพาะอย่าง “Hair Growing Serum” ซึ่งเป็นเซรั่มที่เหมาะสำหรับคนที่มีอาการผมบางและผมร่วงไม่มาก ยังสามารถรักษาผมบางและแก้ปัญหาผมร่วงด้วยวิธีนี้ได้ หรือใช้ร่วมกับการรักษาวิธีอื่น โดยใส่บริเวณหนังศีรษะวันละ 2 ครั้ง เห็นผลได้ใน 3 – 4 เดือนหลังจากใช้ครั้งแรก
2. ใช้ยาเพื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
เพื่อรักษาที่ต้นเหตุของอาการโดยเฉพาะผู้ชาย ได้ผลดีในการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง บริเวณกลางศีรษะ และกระหม่อม สำหรับยาชนิดรับประทานที่ใช้รักษามีอยู่ 2 ชนิดหลัก คือ “ยากลุ่มลดฮอร์โมนเพศชาย” หรืออีกชื่อ คือ Finasteride เป็นยาที่ใช้ยับยั้งฮอร์โมนเพศชายที่มีส่วนทำให้ผมร่วงสามารถช่วยชะลออาการผมบางที่เป็นต้นเหตุของศีรษะล้านได้ กลุ่มที่ 2 เป็น “ยากลุ่มไมนอกซิดิล” มีคุณสมบัติเพิ่มการไหลเวียนเลือด เพราะเชื่อว่าเลือดเป็นส่วนสำคัญในการเลี้ยงบริเวณหนังศีรษะและรากผมได้ดี ช่วยให้เส้นผมมีขนาดใหญ่ขึ้นและลดปัญหาผมร่วงได้ ในส่วนของผู้หญิงจะเลือกใช้ยาลดฮอร์โมนคนละชนิดกับผู้ชาย รวมถึงแนวทางการก็รักษาก็มีความซับซ้อนมากกว่า เนื่องจากสาเหตุของอาการมีมากกว่าเพศชาย จึงต้องปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป
3. แก้ปัญหาผมร่วงด้วย Meso Hair
Meso Hair คือ การรักษาและแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ด้วยวิธีการฉีดวิตามินสำหรับเส้นผมด้วยการสะกิดเบา ๆ (คำว่า Meso เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกการรักษาด้วยการฉีดสารบางอย่างลงไป) โดยแต่ละคลินิกมีความแตกต่างในเรื่องของการนำตัวยาหรือสารต่าง ๆ ที่ใช้รักษา สำหรับทาง Grow & Glow Clinic นำเข้าตัวยาจากยุโรป ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดฮอร์โมนบางตัวในร่างกายที่เป็นสาเหตุของอาการผมร่วง พร้อมช่วยรักษาและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งยังมีวิตามินสูตรเข้มข้นเพื่อช่วยบำรุงรากผม ทำให้เกิดการสร้างเส้นผมขึ้นใหม่ได้ ลดการหลุดร่วง โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายในส่วนอื่น ๆ
4. รักษาด้วยการใช้เกล็ดเลือด (PRP)
การรักษาแบบ PRP คือวิธีแก้ปัญหาอาการผมร่วงและผมบางด้วยการฉีด Plasma หรือเกล็ดเลือดเข้าไปบริเวณหนังศีรษะที่มีปัญหา โดยนำเลือดของผู้เข้ารับการรักษาผ่านกระบวนการ Bio-Technology เพื่อให้ได้เกล็ดเลือดคุณภาพสูงจำนวนมากที่ประกอบไปด้วย Growth Factor และ Stem Cell ฉีดกลับเข้าไปในรากผม เพื่อช่วยฟื้นฟูรากผมให้กลับมาสร้างเส้นผมใหม่อีกครั้ง ทำให้เส้นผมหนาขึ้น ผมร่วงน้อยลง ทำให้ห่างไกลจากศีรษะล้านได้ วิธี PRP จะเห็นผลได้ชัดเจนเมื่อเข้ารับการฉีดครบ 4 ครั้ง (เดือนละ 1 ครั้ง) หลังจากนั้นจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปีหากต้องการให้มีผลระยะยาวอาจจะต้องฉีดซ้ำทุก 6 เดือน
5. ใช้ Stem Cell ช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูรากผม
วิธีแก้ปัญหาผมร่วงต่อมาก็คือ การฉีด Hair Stem Cell เข้าไปช่วยกระตุ้น และฟื้นฟูเซลล์ผมด้วยการใช้เซลล์รากผมและไขมันรอบรากผมของผู้รับการรักษาอาการผมบางบริเวณวิธีแก้ปัญหาผมร่วงต่อมาก็คือ การฉีด Hair Stem Cell เข้าไปช่วยกระตุ้น และฟื้นฟูเซลล์ผมด้วยการใช้เซลล์รากผมและไขมันรอบรากผมของผู้รับการรักษาอาการผมบางบริเวณท้ายทอย 3 – 4 ตำแหน่ง ผ่านกระบวนการเข้าเครื่อง Regenera Activa และฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่ทำการรักษาอาการและแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ที่เป็นต้นเหตุของศีรษะล้าน เพื่อกระตุ้นการทำงานของรากผมให้กลับมาหนาขึ้นอีกครั้ง ข้อจำกัดคือผลลัพธ์ในแต่ละเคสค่อนข้างแตกต่างกันไป ทำให้วิธีนี้เหมาะเป็นการรักษาเสริมจากการปลูกผมมากกว่า
6. สระผมให้ถูกต้อง
การสระผมอย่างถูกวิธีเป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาผมร่วงที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะในคนที่สระผมแล้วผมร่วงเยอะผิดปกติ โดยวิธีสระผมอย่างถูกต้องมีขั้นตอนดังนี้
- หวีผมก่อนสระผม เพื่อลดการพันกันของเส้นผมในระหว่างที่สระผม
- ลดครีมนวดก่อนใช้แชมพูสำหรับคนที่สระผมทุกวัน จะช่วยลดอาการผมแห้งได้
- ละลายแชมพูให้เรียบร้อยก่อนลงบนเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อลดการระคายเคือง
- ทำความสะอาดหนังศีรษะด้วยการนวดเบา ๆ
- ล้างทำความสะอาดแชมพูและครีมนวดผมด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง
- ซับน้ำด้วยผ้าขนหนูจนหมาด ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อน แล้วใช้ไดร์เป่าผมให้แห้งสนิท
- หวีผมให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จ
7. รับประทานอาหารที่ช่วงในการบำรุงเส้นผม
การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารบำรุงเส้นผม นับเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหาผมร่วงง่าย ๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ โดยสารอาหารที่มีส่วนช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและเจริญเติบโตได้ดีก็คือ โปรตีน ไบโอติน ซิงค์ วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี ไลโคปีน และวิตามินบี 6 ถ้าหากคุณกำลังอยู่ในช่วงที่กำลังบำรุงเส้นผม ก็อย่าลืมมองหาอาหารที่มีสารอาหารเหล่านี้กิน รับรองว่าจะช่วยให้อาการผมร่วงดีขึ้นแน่นอน!
8. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผม
ต่อให้รับประทานอาหารบำรุงผม รับประทานยาปลูกผม หรือทำหัตถการที่ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง แต่ถ้าหากยังทำพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผมอยู่ ก็ยังคงทำให้มีอาการผมร่วงเยอะมากกว่าปกติอยู่ดี เพื่อเป็นการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะอย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผมเหล่านี้ด้วย
- นอนหลับในขณะที่ผมเปียก เพราะเป็นช่วงเวลาที่เส้นผมเปราะบาง จะทำให้ผมขาดหลุดร่วงง่าย อีกทั้งยังทำให้เกิดความชื้นและเสี่ยงต่อการเป็นเชื้อราที่หนังศีรษะ
- มัดผมรวบตึงเป็นประจำ โดยแรงดึงจากการมัดผมจะทำให้ผมร่วงได้ง่ายกว่าปกติ
- หวีผมในขณะที่ผมเปียก จะทำให้หลุดร่วงและขาดได้ง่ายกว่าปกติ
- ใช้สารเคมีหรือความร้อนกับหนังศีรษะบ่อยเกินไป จะทำให้หนังศีรษะระคายเคือง อักเสบ ผมแห้งเสีย และขาดหลุดร่วงได้ง่าย
- สระผมด้วยน้ำร้อน จะทำให้ผมแห้ง เส้นผมเปราะบาง และขาดหลุดร่วงได้ง่าย
9. หมั่นบริหารจัดการความเครียดให้ดี
ความเครียดเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วงได้ โดยในคนที่มีความเครียดมาก ๆ อาจทำให้เกิดภาวะผมร่วงทั่วศีรษะ ผมร่วงเป็นหย่อม หรือเป็นโรคดึงผมตัวเองได้ ถ้าหากคุณพบว่าช่วงนี้มีอาการเครียดมาก ๆ ไม่ว่าจะมาจากเรื่องส่วนตัว หรือการทำงาน การหมั่นบริหารความเครียดของตนเองให้ดีก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย
สำหรับใครที่ไม่รู้จะจัดการความเครียดของตนเองอย่างไรดี สามารถลองทำตามวิธีจัดการความเครียดเหล่านี้ดูได้เลย
- หากิจกรรมที่ชอบมาทำ เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับตนเอง เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง หรือไปเที่ยว
- นั่งสมาธิ เพื่อฝึกจิต จัดการความคิดต่าง ๆ ที่วิ่งอยู่ในหัวตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยลดความเครียดลง
- จัดสรรเวลาในชีวิตให้ดี โดยควรแยกเวลางานกับเวลาส่วนตัวออกจากกันให้ชัดเจน
- ออกกำลังกาย เพื่อกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินส์ (Endorphins) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ฮอร์โมนแห่งความสุข”
- ลองไปปรึกษาความเครียดกับจิตแพทย์ เหมาะสำหรับคนที่ไม่สามารถจัดการความเครียดด้วยตนเองได้ และไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด
ผมร่วงกี่วันขึ้นใหม่ ?
เส้นผมของคนเราจะงอกและหลุดร่วงเป็นวงจร แบ่งเป็น ช่วยเจริญเติบโตของเส้นผม ช่วงเสื่อมสภาพ หรือหยุดการเจริญเติบโต และช่วงหยุดพัก หรือระยะผลัดเส้นผม ซึ่งในช่วงผลัดเส้นผมนี้เองที่เป็นรอยต่อของผมที่กำลังจะหลุดร่วงกับเส้นผมใหม่ที่จะขึ้นมาแทน โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 100 วัน หรือ 3 เดือน
ผมร่วงจะขึ้นใหม่ไหม ?
สำหรับคนที่มีสุขภาพของเส้นผมดี ไม่ได้มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านจากพันธุกรรม จะมีอัตราผมร่วงอยู่ที่ประมาณ 50 – 100 ต่อวัน และจะเส้นผมงอกขึ้นมาใหม่เพื่อทดแทนเส้นผมที่หลุดร่วงออกไปอย่างเพียงพอ ทำให้ไม่สามารถสังเกตเห็นความผิดปกติแต่อย่างใด
สรุปวิธีการแก้ปัญหาผมร่วงเยอะมาก
สำหสำหรับ 9 วิธีแก้ปัญหาผมร่วงเยอะมากที่กล่าวไปข้างต้น นับเป็นเทคนิคที่ไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนกับการปลูกผมถาวร ซึ่งในแต่ละวิธีจะเหมาะกับการรักษาอาการผมบาง ผมร่วงในระดับที่ยังไม่หนักมาก เพราะรากผมยังไม่เสื่อมสภาพไปจนหมดจึงสามารถใช้วิธีแก้ปัญหาผมร่วงเหล่านี้เพื่อเข้าไปบำรุง กระตุ้น และฟื้นฟูการทำงานของรากผมให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ก่อนเข้ารับการรักษาจำเป็นต้องได้รับการประเมินอาการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อทำการวิเคราะห์และเลือกวิธีได้อย่างถูกต้อง เห็นผลลัพธ์จริง และปลอดภัยในระหว่างที่เข้ารับบริการ โดยสามารถปรึกษากับทาง Grow & Glow Clinic คลินิกปลูกผม ที่พร้อมดูแลทุกปัญหาผมของคุณได้ทุกวัน