ไขข้อสงสัย ปัญหาหัวล้านเกิดจากอะไร มีวิธีรักษายังไงบ้าง

เขียนโดย แพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ - ก.ย. 24, 2024

ปัญหาหัวล้านเป็นความกังวลที่หลายคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ ภาวะนี้สามารถส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก ในบทความนี้ คลินิกปลูกผม Grow and Glow Hair Clinic จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาหัวล้าน และวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างถูกต้อง

ปัญหาหัวล้านเกิดจากอะไร?

ปัญหาหัวล้านเกิดจากอะไร?

ปัญหาหัวล้านไม่ได้เกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดภาวะนี้ สาเหตุหลักๆ ได้แก่ พันธุกรรม ฮอร์โมน อายุที่เพิ่มขึ้น และโรคบางชนิด นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกอย่างความเครียด การขาดสารอาหาร และการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ไม่เหมาะสมก็สามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหาหัวล้านได้เช่นกัน การทำความเข้าใจถึงสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถหาวิธีป้องกันและรักษาได้อย่างตรงจุด

ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาหัวล้านเกิดจากอะไรบ้าง?

ปัญหาหัวล้านมีสาเหตุหลักมาจากหลายปัจจัย ซึ่งแต่ละปัจจัยส่งผลต่อการเกิดภาวะผมร่วงและหัวล้านในลักษณะที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าปัจจัยหลักเหล่านี้มีอะไรบ้าง

ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาหัวล้าน

หัวล้านจากกรรมพันธุ์

หัวล้านกรรมพันธ์ุ เป็นสาเหตุสำคัญอันดับต้นๆ ของปัญหาหัวล้าน โดยเฉพาะในผู้ชาย ลักษณะทางพันธุกรรมนี้ทำให้รูขุมขนไวต่อฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป ส่งผลให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมสั้นลง เส้นผมบางลงและหลุดร่วงง่ายขึ้น ในที่สุดรูขุมขนก็จะหยุดสร้างเส้นผมใหม่ ทำให้เกิดภาวะหัวล้าน ซึ่งมักพบได้ตั้งแต่อายุ 20-30 ปีขึ้นไป

ฮอร์โมนเพศชาย

ฮอร์โมนเพศชาย โดยเฉพาะไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) มีบทบาทสำคัญในการเกิดปัญหาหัวล้าน ฮอร์โมนนี้ทำให้รูขุมขนหดตัวและมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้เส้นผมที่งอกใหม่มีขนาดเล็กและบางลง ในที่สุดรูขุมขนจะปิดสนิทและไม่สามารถสร้างเส้นผมใหม่ได้ ปัญหานี้พบได้บ่อยในผู้ชาย แต่ก็สามารถเกิดขึ้นในผู้หญิงได้เช่นกัน โดยเฉพาะในวัยหมดประจำเดือน

อายุที่เพิ่มขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน รวมถึงการเจริญเติบโตของเส้นผม วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมจะสั้นลง ทำให้เส้นผมบางลงและหลุดร่วงง่ายขึ้น นอกจากนี้ ความสามารถในการสร้างเส้นผมใหม่ของรูขุมขนก็ลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะผมบางและหัวล้านได้ โดยปกติแล้วจะเริ่มสังเกตเห็นได้ชัดเจนเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป

โรคผมร่วงเป็นหย่อม

โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) เป็นโรคภูมิต้านทานตัวเองที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีรูขุมขน ส่งผลให้เกิดการร่วงของเส้นผมเป็นหย่อมกลมๆ บนศีรษะ ในบางกรณีอาจลุกลามจนผมร่วงทั้งศีรษะหรือทั่วร่างกาย โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และมักเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางพันธุกรรมและความเครียด

โรคดึงผมตัวเอง

โรคดึงผมตัวเอง (Trichotillomania) เป็นความผิดปกติทางจิตที่ทำให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมดึงผมของตัวเองอย่างซ้ำๆ จนเกิดเป็นหย่อมผมบางหรือหัวล้าน พฤติกรรมนี้มักเกิดจากความเครียด ความวิตกกังวล หรือเป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าทางอารมณ์ การรักษาโรคนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างจิตแพทย์และแพทย์ผิวหนังเพื่อจัดการทั้งด้านจิตใจและผลกระทบทางกายภาพ

ป่วยจากโรคบางชนิด

โรคบางชนิดสามารถส่งผลให้เกิดปัญหาผมร่วงและหัวล้านได้ เช่น โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษหรือต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป โรคลูปัส โรคเบาหวาน และโรคขาดสารอาหารบางชนิด นอกจากนี้ การรักษาบางอย่าง เช่น เคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็ง ก็สามารถทำให้เกิดภาวะผมร่วงได้เช่นกัน ในกรณีเหล่านี้ การรักษาโรคหลักมักจะช่วยให้ปัญหาผมร่วงดีขึ้นได้

ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาหัวล้านเกิดจากอะไรบ้าง?

นอกจากปัจจัยหลักที่กล่าวมาแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถส่งผลให้เกิดปัญหาหัวล้านได้ ปัจจัยเหล่านี้อาจไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรง แต่สามารถกระตุ้นหรือเร่งให้เกิดภาวะผมร่วงและหัวล้านได้

ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาหัวล้านเกิดจากอะไรบ้าง?

ความเครียดสะสม

ความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถกระตุ้นให้เกิดปัญหาผมร่วงและหัวล้านได้ เมื่อร่างกายเผชิญกับความเครียดเรื้อรัง จะมีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลในปริมาณสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมสั้นลง เส้นผมหลุดร่วงง่ายขึ้น และอาจนำไปสู่ภาวะผมร่วงแบบฉับพลันได้ การจัดการความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาผมร่วงและหัวล้าน

ผมร่วงหลังคลอด

ผมร่วงหลังคลอดมากกว่าปกติ เป็นหนึ่งในอาการที่สามารถพบได้ในผู้หญิงที่เพิ่งคลอดบุตร สาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายหลังการตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงอย่างรวดเร็วหลังคลอดทำให้เส้นผมเข้าสู่ระยะพัก (Telogen phase) พร้อมกันจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการร่วงของเส้นผมมากกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้มักเป็นเพียงชั่วคราวและจะดีขึ้นเองภายใน 6-12 เดือนหลังคลอด

การได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ

การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมสามารถนำไปสู่ปัญหาผมร่วงและหัวล้านได้ สารอาหารที่สำคัญต่อสุขภาพเส้นผม ได้แก่ โปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินบี12 การรับประทานอาหารที่ไม่สมดุลหรือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารเหล่านี้ ส่งผลให้เส้นผมอ่อนแอ แตกหักง่าย และหลุดร่วง การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพเส้นผมและป้องกันปัญหาหัวล้าน

วิธีรักษาปัญหาหัวล้าน

วิธีรักษาปัญหาหัวล้าน

เมื่อทราบถึงสาเหตุของปัญหาหัวล้านแล้ว เรามาดูวิธีการรักษากัน ปัจจุบันมีหลายวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ ต่อไปนี้คือวิธีรักษาที่นิยมใช้

การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สาเหตุของปัญหาหัวล้าน ความรุนแรงของอาการ อายุ เพศ และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและคำแนะนำที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ

สรุปบทความ

ปัญหาหัวล้านเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน และอายุ รวมถึงปัจจัยภายนอก เช่น ความเครียด และการขาดสารอาหาร การทำความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการหาวิธีรักษาที่เหมาะสม ปัจจุบันมีวิธีการรักษาหลากหลายที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาหัวล้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การใช้ยาทาหรือยารับประทาน ไปจนถึงการปลูกผมถาวร การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล

สำหรับใครที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน สามารถนัดหมายเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้เลย เรามีบริการรักษาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น ปลูกผม DHI, ปลูกผม FUT, ปลูกไรผมหน้าผากผู้หญิง, บริการรักษาผมบางด้วยวิธีต่าง ๆ ดูแลโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษาผมร่วง ผ่านการรับรองจากสถาบันปลูกผมระดับโลก ใช้เทคนิคการปลูกผมที่ทันสมัย สามารถแก้ปัญหาผมบางได้อย่างน่าพึงพอใจ รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน!

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่

Instagram :growandglowc


ปรึกษาออนไลน์ฟรีกับคุณหมอ